ทนาย ‘แอ๋ม’ เหยื่อ ‘เปรี้ยวฆ่าหั่นศพ’ ยื่นศาล ‘ขอตัดสินใหม่’ ให้ประหาร!!

สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2561 ศาลจังหวัดขอนแก่นได้พิพากษาคดีดำเลขที่ อ.1957/ 2560 น.ส.ปรียานุช หรือเปรี้ยว โนนวังชัย พร้อมพวกร่วมก่อเหตุฆ่าหั่นศพ น.ส.วริศรา หรือแอ๋ม กลิ่นจุ้ย โดยพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต น.ส.ปรียานุช หรือเปรี้ยว และ น.ส.กวิตาหรือเอิร์น ราชดา ในความผิดร่วมกันฆ่าทำลายศพ และร่วมกันลักทรัพย์ แต่ให้การเป็นประโยชน์จึงลดโทษให้หนึ่งในสาม เหลือ 34 ปี 6 เดือน ส่วน น.ส.อภิวันท์ หรือแจ้ สัตยบัณฑิต จำคุก 33 ปี 9 เดือน ข้อหาร่วมกันฆ่า, ทำลายศพและเสพยาบ้า นายวศิน หรือนิว นามพรหม จำคุก 23 ปี 4 เดือน 20 วัน ข้อหาทำลายศพ และร่วมกันลักทรัพย์ ส่วน น.ส.จิดารัตน์ หรือเบนซ์ พรมคุณ จำคุก 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา ในข้อหารับของโจร พร้อมกันนี้ให้ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหาย 1,070,000 บาท แก่ครอบครัวผู้ตาย

ทั้งนี้ ศาลให้เหตุผลว่าจำเลยไม่ได้ฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนแต่เจตนาล่อลวงผู้เสียชีวิตขึ้นรถไปทำร้ายร่างกาย ต่อมาทั้งสองมีปากเสียงกัน จึงเปลี่ยนเจตนาเป็นฆ่าและอำพรางศพ ก่อนนำตัวจำเลยทั้ง 4 ราย คือ น.ส.เปรี้ยว,น.ส.เอิร์น,น.ส.แจ้ และนายวศิน ไปคุมขังที่เรือนจำกลางคลองไผ่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา เนื่องจากนักโทษคดีร้ายแรงที่มีโทษสูงเกิน 15 ปี ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 9 สิงหาคม นายนพดล สีดาทัน ทนายโจทก์ร่วมในคดีหมายเลขดำที่ 1657 / 2560 คดีหมายเลขแดงที่ 1039 / 2561 หอบสำนวนจำนวน 43 หน้า มาที่ศาลจังหวัดขอนแก่น เพื่อยื่นอุทธรณ์ในคดีดังกล่าว ระหว่าง พนักงานอัยการจังหวัดขอนแก่น โจทก์ และ น.ส.พิชชาภา คำเพิงใจ และ นายนพดล สีดาทัน ทนายความโจทก์ร่วม กับ น.ส.ปรียานุช หรือเปรี้ยว โนนวังชัย ที่ 1 กับพวกรวม 5 คน จำเลย ในข้อหาความผิดต่อเจ้าพนักงานในการยุติธรรม ความผิดต่อชีวิต ความผิดต่อเสรีภาพฯ โดยนายนพดลมาขอยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาศาลชั้นต้น เพราะว่าศาลตัดสินเบากว่าข้อเท็จจริงที่โจทก์วิเคราะห์แล้วว่าเข้ามาตราที่โจทก์ฟ้อง

นายนพดลทนายร่วมในคดี น.ส.เปรี้ยวกับพวกรวม 5 คน ฆ่าหั่นศพน.ส.อภิวันท์ หรือแจ้ สัตยบัณฑิต กล่าวว่า หลังจากศาลจังหวัดขอนแก่นอ่านคำพิพากษาในคดีดังกล่าว โดย ยกฟ้อง น.ส.เปรี้ยว น.ส.เอิร์น น.ส.แจ้ และ นายวศิน ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน วันนี้ตนในฐานะทนายโจทก์ร่วมและครอบครัวของผู้เสียหายจึงมาขอยื่นอุทธรณ์เพื่อต่อสู้คดีใหม่เพื่อให้ศาลมีคำพิพากษาตามฟ้องโจทก์เดิม คือ น.ส.ปรียานุช หรือ เปรี้ยว โนนวังชัย พร้อมพวกร่วมก่อเหตุฆ่าหั่นศพ น.ส.วริศรา หรือ แอ๋ม กลิ่นจุ้ย โดยไตร่ตรองไว้ก่อนตามมาตรา 289 และ ให้ศาลมีคำพิพากษาให้จำเลยทั้ง 4 คน คือ น.ส.เปรี้ยว น.ส.เอิร์น น.ส.แจ้ และ นายวศิน ชำระค่าไร้อุปการะให้กับโจทก์ร่วมและค่าใช้จ่ายตามความจำเป็น จำนวน 10,300,000 บาท เท่ากับคำฟ้อง

จากคำให้การของพยานที่ผ่านมามีความชัดเจนว่าจำเลยทั้ง 4 คน ได้แบ่งหน้าที่การทำงานจนสามารถฆ่าหั่นศพ น.ส.แอ๋มตามที่ได้ตั้งใจและไตร่ตรองไว้ โดยมีทั้งการลงไปซื้ออาวุธ มีการไตร่ตรองเพื่อนำถุงดำมาผูกคอฆ่าให้ตาย และไตร่ตรองซ้ำการหั่นศพให้เป็นชิ้นเล็กๆและทำลายเพื่อให้ตัวเองพ้นผิด ซึ่งเป็นการกระทำที่โหดร้ายและเหี้ยมโหด นอกจากนี้มีการไตร่ตรองว่าจะซ่อนศพอย่างไร เอาศพไปทำลายแบบไหน เพื่อไม่ให้ใครเห็นและพวกตัวเองหลุดพ้นจากการกระทำความผิด

“อย่างไรก็ตาม หลังจากยื่นอุทธรณ์ไปแล้วทางจำเลยจะแก้หรือไม่แก้อุทธรณ์ก็เป็นเรื่องของฝ่ายจำเลย เมื่อเข้าสู่ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยที่จะเป็นองค์คณะของศาลอุทธรณ์ในเวลาไม่เกิน 6 เดือน เพราะโทษที่ศาลชั้นต้นตัดสินมามีฐานความผิดฆ่าคนตายโดยเจตนา เป็นเรื่องธรรมดาครอบครัวของผู้เสียชีวิตขอใจขอยื่นอุทธรณ์เพื่อต่อสู้คดีใหม่ในชั้นอุทธรณ์ โดยต่อสู้ว่าเป็นการไตร่ตรองไว้ก่อน เพราะมีสาเหตุโกรธเคือง มีการเตรียมเช่ารถที่นำ น.ส.แอ๋มไปฆ่าหั่นศพ มีการวางแผนด้วยการแบ่งหน้าที่กันทำ 4 คน ไม่มี น.ส.เบนซ์เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ได้ทราบว่าในฝ่ายของจำเลยได้ทราบว่ายังไม่มีการยื่นอุทธรณ์ แต่ได้ขยายเวลาในการยื่นอุทธรณ์ ซึ่งตนเชื่อว่าทนายจำเลยยื่นอุทธรณ์ เพราะว่าศาลตัดสินในคดีดังกล่าวในมาตรา 288 หนักเกินไป ต้องลงโทษเบากว่ามาตรา 288 คือ ทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย” นายนพดล ทนายความโจทก์ร่วมฆ่าหั่นศพฝังดินน.ส.แอ๋ม กล่าว