วันที่ 20 มิถุนายน 2561 เว็บไซต์เจแปนไทม์สของญี่ปุ่น รายงานข่าวโดยอ้างการรายงานของสำนักข่าวเอเอฟพีระบุว่า นักเคลื่อนไหวที่คัดค้านนโยบาย ‘ซีโร่ ทอเรอเรนท์’ หรือการแบ่งแยกเด็กออกจากพ่อแม่ ได้บุกเข้าไปตะโกนรบกวนใส่น.ส.เคิร์สเจ่น นีลเซ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิสหรัฐฯขณะนั่งรับประทานอยู่ในภัตตาคารเม็กซิกันในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. จากที่เมื่อวานนี้ น.ส.นีลเซ่นออกมาแถลงข่าวแสดงจุดยืนปกป้องกฎหมายผู้อพยพและปฏิบัติการแยกเด็กออกจากพ่อแม่ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ

โดยนักเคลื่อนไหวจากกลุ่มสังคมนิยมประชาธิปไตยหแห่งอเมริกาเมโทร ดีซี ได้เข้าไปเผชิญหน้ากับน.ส.นีลเซ่นขณะนั่งรับประทานอาหารและตะโกนว่า “ช่างน่าอาย” ซ้ำหลายครั้งเป็นการรบกวนความสงบท่ามกลางเจ้าหน้าที่และกำลังรักษาอารักขารัฐมนตรี

อีกทั้งในคลิปวิดีโอของกลุ่มเผยแพร่ภาพน.ส.นีลเซ่นอยู่ในมุมหนึ่งของภัตตาคาร เธอก้มศีรษะต่ำลงขณะที่ผู้ประท้วงตะโกนใส่ รวมถึงประโยคที่ว่า “ถ้าเด็กกินอย่างไม่เป็นสุข เธออย่าได้กินอย่างเป็นสุขด้วย”

มาร์กาเร็ต แม็คลาฟลิ่ง สมาชิกกลุ่มผู้ประท้วงกล่าวในแถลงการณ์ว่า “แม้มื้อเย็นของรมต.นีลเซ่นต้องพังยับ แต่นั้นเทียบไม่ได้กับความน่าสะพรึงกลัวที่เธอมอบให้กับครอบครัวผู้บริสุทธิ์”

ด้านนายไทเลอร์ โฮลตัน โฆษกรมต.นีลเซ่น กล่าวถึงการเผชิญหน้าว่า กลุ่มผู้ประท้วงขนาดเล็กได้แสดงความกังวลต่อกฎหมายผู้อพยพว่าได้สร้างวิกฤตต่อชายแดนทางตอนใต้ ท่านรมต.ได้ชี้แจงต่อทุกฝ่ายรวมถึงกลุ่มผู้ประท้วงกลุ่มนี้ ที่ต้องการเห็นกฎหมายผู้อพยพทำงานได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของเราปกป้องความปลอดภัยกับเราและยังสะท้อนคุณค่าที่ส่งถึงสมาชิกสภาคองเกรสและขอการสนับสุนเพื่ออุดช่องโหว่การอพยพอันเลวร้ายซึ่งทำให้ระบบของเราวุ่นวาย

“ท่านรมต.ได้ทำงานร่วมกับสมาชิกสภาคองเกรสเป็นเวลาหลายเดือนเพื่อหาข้อสรุปและเธอยังคงดำเนินการเรื่องนี้ต่อในอาทิตย์นี้” นายโฮลตัน กล่าว

ขณะที่ นายทรัมป์ ได้ทวิตข้อความปกป้องน.ส.นีลเซ่นโดยระบุว่า เมื่อวานนี้เธอทำงานได้วิเศษในการแถลงข่าวอธิบายถึงความมั่นคงในชายแดนและเพื่อประเทศชาติของเรา ขณะที่ ในเวลาเดียวกันแนะนำการเปลี่ยนแปลงกฎหมายล้าสมัยและน่ารังเกียจซึ่งบังคับให้เกิดการแบ่งแยกครอบครัว เราต้องการ “หัวใจ” และความมั่นคงในอเมริกา

https://www.facebook.com/MetroDCDSA/videos/803604196505574/

ทั้งนี้ มีกระแสก่อตัวมากขึ้นที่เรียกร้องให้น.ส.นีลเซ่นลาออกจากตำแหน่งรมต.จากเหตุวิกฤตผู้อพยพและนโยบายแยกเด็กออกจากพ่อแม่