โล่เงิน : กระแสไม่มั่นใจคดี “เสือดำ” ของกลุ่มอนุรักษ์ “คลี่คลาย”?? หลัง ตร.สั่งฟ้อง “เปรมชัย”

ผ่านมากว่า 1 เดือน สำหรับการดำเนินคดีกับนายเปรมชัย กรรณสูต ประธาน บมจ. อิตาเลียนไทย ดิเวล๊อปเมนต์ พร้อมพวกรวม 4 คน หลังเข้าไปล่าสัตว์ในป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก จ.กาญจนบุรี

เริ่มตั้งแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่จากทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตกได้รับแจ้งว่าพบนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งตั้งแคมป์พักในบริเวณจุดห้าม จากการตรวจสอบพบบุคคลที่เข้าไปยังเขตดังกล่าว คือ นายเปรมชัย พร้อม นายยงค์ โดดเครือ นางนที เรียมแสน และนายธานี ทุมมาศ

ที่สำคัญ เจ้าหน้าที่พบซากเสือดำ ซากไก่ฟ้าหลังเทา แต่เมื่อตรวจสอบอย่างละเอียดในเวลาต่อมาพบเป็นซากไก่ฟ้าหลังขาว ซากเก้งที่ผลตรวจอย่างละเอียดพบเป็นซากหมูป่า อาวุธปืน และเครื่องกระสุนจำนวนมาก ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจยึดไว้เป็นหลักฐานสำคัญ ที่แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมของกลุ่มผู้ต้องหาว่ามีเจตนาเข้าไปล่าสัตว์จนนำไปสู่การตั้งข้อกล่าวหารวม 9 ข้อหา

โดยนายเปรมชัยกับพวก ถูกส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดทองผาภูมิ และได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างการสอบสวน

ศาลตีราคาประกันตัวคนละ 150,000 บาท

การขยายผลจับกุมดำเนินการทันที โดย พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (บช.ภ.7) และเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นำหมายค้นจากศาลเข้าตรวจค้นบ้านนายเปรมชัย ย่านบางกะปิ ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกันรวม 3 หลัง ตลอดจนตรวจสอบบ้านพัก ที่ดิน และรีสอร์ต ของเครือญาตินายเปรมชัย ที่ อ.ภูเรือ จ.เลย

ผลการตรวจค้นบ้านพัก เจ้าหน้าที่ยึดงาช้าง 2 คู่ (4 กิ่ง) อาวุธปืน 43 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนจำนวนมากไปตรวจสอบทะเบียนการครอบครอง รวมถึงตรวจหาดีเอ็นเอลายนิ้วมือ

จากการตรวจสอบเอกสารการครอบครองอาวุธปืน 43 กระบอก พบว่าอาวุธปืนจำนวน 6 กระบอก ไม่มีการขออนุญาตครอบครองตามกฎหมาย ขณะที่ในส่วนของงาช้าง 4 กิ่ง ได้ส่งให้กรมอุทยานฯ ตรวจหลักฐานการครอบครอง ผลการตรวจสอบระบุชัดเจนว่างาช้างเป็นสายพันธุ์แอฟริกา อีกทั้งมีชื่อภรรยาของนายเปรมชัยเป็นผู้ครอบครอง จึงถือว่าผิดกฎหมาย

ด้านที่ดินที่ จ.เลย มีการแจ้งความดำเนินคดีฐานครอบครองที่ดินโดยมิชอบและบุกรุกป่า กับบริษัท ซี.พี.เค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด มีนายเปรมชัย เป็นกรรมการร่วมกับพี่สาวอีก 3 คน

เจ้าหน้าที่ตำรวจขยายผลตรวจค้นจับกุมและแจ้งข้อหานายเปรมชัยกับพวกโดยใช้เวลาไม่นานนัก

ทว่า การตายของเสือดำ ที่มีนายเปรมชัย บิ๊กบอสบริษัทยักษ์ใหญ่ เป็นผู้ต้องหา ทำให้สังคม ตลอดจนกลุ่มอนุรักษ์และประชาชน จับตามองและเกิดความคลางแคลง มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์กลัวว่านายเปรมชัยจะพ้นข้อกล่าวหา โดยกระแสกระพือไปไกลเมื่อข้อหาทารุณกรรมสัตว์ ที่ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่เตรียมแจ้งข้อหานายเปรมชัยกับพวก แต่แล้วเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ มีการถอนแจ้งความ

เนื่องจากพิจารณานิยามคำว่า “สัตว์ป่า” แล้วพบว่าไม่เข้าข่ายตามคำนิยามตาม พ.ร.บ.การทารุณกรรมสัตว์ อีกทั้งมีการลงโทษภาคทัณฑ์ ร.ต.อ.สุมิตร บุญยะนิจ พนักงานสอบสวน ที่รับแจ้งความข้อหาทารุณกรรมสัตว์ ถือเป็นการบกพร่องต่อหน้าที่ไม่ตรวจสอบข้อกฎหมายให้แน่ชัดว่าเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมายหรือไม่

และเมื่อประกอบกับภาพ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. โค้ง (รับ) ไหว้นายเปรมชัย ที่บรรดานักเลงคีย์บอร์ดคอมเมนต์เผ็ดร้อน ทำให้พนักงานสอบสวนตกเป็นเป้าร่วมกับนายเปรมชัยทันที

พล.ต.อ.ศรีวราห์ ชี้แจงว่า “เรื่องการไหว้ที่บ้านผมสอนมาแบบนี้ ก็ต้องไหว้แบบนี้ ไม่มีคำว่ารวยหรือจน ผมก็ไหว้แบบนี้เหมือนกัน ซึ่งถ้าไม่ไหว้แบบนี้บ้านผมก็ไม่ยกมรดกให้ คดีนี้ไม่มีมวยล้มต้มคนดูแน่นอน”

อย่างไรก็ดี กลุ่มอนุรักษ์มีการเคลื่อนไหวต่อต้านเชิงสัญลักษณ์ ทั้งพ่นสเปย์กราฟิตี้ รูปเสือดำตามที่ต่างๆ รวมถึงการรวมตัวของกลุ่มศิลปินดารา ออกมาแสดงเชิงสัญลักษณ์ในทางต่อต้านเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมโดยแสดงสัญลักษณ์เครื่องหมายกากบาทบนฝ่ามือซ้าย

ท่ามกลางกระแสข่าวไม่มั่นใจการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานสอบสวน การดำเนินคดียังคงเดินหน้าต่อไป และกระแสต่อต้านเริ่มคลี่คลาย เมื่อวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ สรุปสำนวนคดีล่าสัตว์ฯ ที่มีนายเปรมชัยกับพวก ตกเป็นผู้ต้องหา พร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้องรวม 9 ข้อหา ส่งให้อัยการจังหวัดทองผาภูมิพิจารณา

พร้อมกันนั้น กองบังคับการปราบปรามและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ได้เรียกนายวิเชียร ชิณวงษ์ นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ ทำหน้าที่หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก และชุดจับกุมเข้าให้ปากคำ กระทั่งพบข้อมูลว่ามีการทำเรื่องขอเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าว โดยผ่านทางข้าราชการระดับสูงของกรม มีอดีตข้าราชการเป็นคนประสานให้

นอกจากนี้ ยังพบว่ามีคลิปเสียงที่ระบุว่ามีการต่อรองไม่ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดี เป็นเหตุให้ ปปป. ตั้งแท่นดำเนินคดีนายเปรมชัย เพิ่ม ฐานติดสินบนเจ้าพนักงานด้วย

จึงน่าสนใจว่าคดีล่าเสือดำที่สังคมเฝ้าจับตา ที่นายเปรมชัยกับพวกตกเป็นผู้ต้องหา จะจบลงเช่นไร?!!