แมลงวันในไร่ส้ม/ปฏิกิริยาจากข่าวร้อน เมื่อ “ยิ่งลักษณ์” หนี เสียงกรี๊ด-และ “กวีหู”

แมลงวันในไร่ส้ม

ปฏิกิริยาจากข่าวร้อน เมื่อ “ยิ่งลักษณ์” หนี เสียงกรี๊ด-และ “กวีหู”

ข่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่มาฟังคำตัดสินของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม เรียกปฏิกิริยาได้อย่างหลากหลาย

ในวันเดียวกัน ศาลได้อ่านคำตัดสินคดีระบายข้าวแบบจีทูจี ตัดสินจำคุกนักการเมืองจากพรรคเพื่อไทย นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ โดนไป 42 ปี และ นายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ 36 ปี

น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ให้ทนายขอให้ศาลเลื่อนอ่านคำตัดสิน โดยอ้างว่าป่วย น้ำในหูไม่เท่ากัน แต่ศาลไม่เชื่อ ออกหมายจับและริบเงินประกัน 30 ล้านบาท และนัดวันอ่านคำพิพากษาในวันที่ 27 กันยายน

มีกระแสข่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์เดินทางออกจากประเทศไทยในวันที่ 23 หรือ 24 สิงหาคม ข้ามชายแดนไทยไปยังกัมพูชา แล้วขึ้นเครื่องบินจากพนมเปญไปสิงคโปร์ แล้วเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัวของ นายทักษิณ ชินวัตร ไปดูไบ

รอยเตอร์อ้างคนใกล้ชิดระบุว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ข้อมูลบางอย่าง และตัดสินใจหลบออกจากบ้านในวันที่ 24 สิงหาคม ปกติ น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นคนรอบคอบ ชอบเตรียมการล่วงหน้า การตัดสินใจก่อนตัดสินคดีเพียง 1 วันจึงถือเป็นการตัดสินใจในนาทีสุดท้าย

มีคนไทยพบนายทักษิณและ น.ส.ยิ่งลักษณ์ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ สิงคโปร์ในวันที่ 25 สิงหาคม เข้าใจว่าก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังดูไบ

ขั้นตอนและเส้นทางการหนีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังเป็นปริศนา เนื่องจากที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่รัฐตามประกบตัวอดีตนายกฯ อย่างแทบไม่ให้คลาดสายตา

แม้แต่เข้าห้องน้ำยังตามถ่ายรูป จนเป็นข่าวมาแล้ว

เมื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์หายไป จึงมีผู้ตั้งประเด็นว่า มี “ไฟเขียว” ให้เดินทางไป เพราะไม่ต้องการให้เกิดสถานการณ์ขึ้นในประเทศ

บางกระแสระบุว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ขึ้นเครื่องบินจากสนามบินใหญ่ในภาคตะวันออก บินตรงไปยังสิงคโปร์ด้วยซ้ำ

หลังจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์หนีไป สำนักข่าวต่างประเทศเผยรายงานข่าวจากคนในวงการรัฐบาลว่า ดูไบไม่ใช่เป้าหมายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์

แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องการยื่นขอลี้ภัยในประเทศอังกฤษ และอยู่ระหว่างการประสานงาน

ถือว่าเป็นประเด็นสำคัญอย่างยิ่ง เพราะหากได้ลี้ภัยในอังกฤษ หรือประเทศตะวันตก โดยเฉพาะประเทศประชาธิปไตย ก็จะส่งผลสะท้อนกลับมายังรัฐบาล

ปฏิกิริยาของสื่อต่างๆ อาทิ เปลว สีเงิน แห่งไทยโพสต์ เขียนเรื่อง “บันทึกถึง “น้ำในรูหู” ยิ่งลักษณ์” ในฉบับ 26 สิงหาคม

ระบุว่า จะต้องไปตื่นเต้นอะไรกันนักหนา? มันก็แค่เกม “น้ำในรูหูที่ลึกซึ้ง” ธรรมดาๆ ของหญิงคนหนึ่งที่ชื่อ “ยิ่งลักษณ์” เท่านั้น

ในความเห็นผม หนีไปน่ะดีแล้ว ทำให้แผ่นดินสะอาด ไปอยู่นอกประเทศ ก็เหมือนติดคุก ต่างตรงกำแพงข้างนอกมันกว้างกว่ากำแพงคุกจริงๆ เท่านั้น

สมมุติติดคุกอยู่ในประเทศ มีโอกาสออกมา แต่การหนีไปเช่นนี้ ด้วยกฎหมายใหม่ เท่ากับต้องไปตายอยู่นอกประเทศสถานเดียว

กฎหมายใหม่ คนหนีคดี ไม่มีการนับอายุความ กลับเข้ามารับโทษวันไหน จึงจะนับอายุความจาก 1 ไปวันนั้น

พร้อมกับชื่นชม เป็นกำลังใจต่อผู้มีส่วนสำคัญ ทำให้คดีนี้ขึ้นสู่ศาล ตั้งแต่ปี 2555 องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น หรือ ACT นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก ประชาธิปัตย์ ยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบโครงการรับจำนำข้าว

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ประเด็นทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ขายแบบจีทูจี

ต่อไปคือ คณะกรรมการ ป.ป.ช. “นายวิชา มหาคุณ” ผู้เป็นประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว

รวมทั้ง น.ส.สุภา ปิยะจิตติ ป.ป.ช. ผู้เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงในคดีที่กล่าวหายิ่งลักษณ์

จนคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติ “คดีมีมูล” ส่งเรื่องให้ ส.ว. ถอดถอนยิ่งลักษณ์ในปี 2557

คดีถึงอัยการสูงสุด ได้ยื่นฟ้องยิ่งลักษณ์ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เมื่อกุมภาพันธ์ 2558

ศาลรับฟ้อง และเริ่มพิจารณาคดี จากพฤษภาคม 2558 จนถึงวันที่ 1 สิงหาคม 2560 ยิ่งลักษณ์แถลงปิดคดีด้วยวาจา

นัดฟังคำตัดสิน 25 สิงหาคม แต่ยิ่งลักษณ์ “หายตัว”

ก่อนลงท้ายว่า “แดงทั้งแผ่นดิน” ไม่อยากจบ แต่ “ระบบทักษิณ” มันจบแล้ว!

นั่นคือความเห็นจาก “เปลว สีเงิน” แห่งไทยโพสต์

ปฏิกิริยาจากการหนีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่สร้างความฮือฮา ยังรวมถึงจาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จนต้องออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้เยาะเย้ย น.ส.ยิ่งลักษณ์ จากการขึ้นพูดบนเวทีที่จังหวัดภาคใต้

ต่อมานายอภิสิทธิ์ออกข่าวว่า จะทำโพลถามความเห็นประชาชนว่ารู้สึกอย่างไรที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์หนี ปรากฏว่า ถูกประชาชนที่อ่านข่าวเข้ามาคอมเมนต์ถล่มอย่างหนัก

ในแวดวงกวี นักเขียน ธัญญา สังขพันธานนท์ หรือ ไพฑูรย์ ธัญญา นักเขียนรางวัลซีไรต์จากเรื่อง “ก่อกองทราย” และศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ ซึ่งเป็นอาจารย์ภาษาไทยในมหาวิทยาลัยทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และต่อมาย้ายมาสอนที่มหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก ได้เขียนกลอนใช้คำผวนที่มีลักษณะสองแง่สองง่าม วิจารณ์การหนีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์และอาการป่วยน้ำในหู

อีกรายได้แก่ นายจรูญ หยูทอง หรือ รูญ ระโนด ก็เขียนกลอนใช้คำ “หู” บรรยายการหนีไปดูไบ ก็ได้รับปฏิกิริยาคล้ายๆ กัน

ศ.ดร.สมภาร พรมทา นักวิชาการด้านปรัชญาและศาสนา โพสต์ถึงกรณี ไพฑูรย์ ธัญญา ว่า ไม่มีใครทราบเลยว่ากวีท่านนี้ได้เป็นศิลปินแห่งชาติแล้วเมื่อปีที่แล้ว ผมในฐานะคนรับผิดชอบคนหนึ่งในการคัดเลือกศิลปินแห่งชาติปีที่แล้ว รู้สึกเสียใจ ไม่คาดคิดว่าคุณภาพศิลปินแห่งชาติจะเป็นอย่างนี้

เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณยิ่งลักษณ์ แต่เกี่ยวกับการรักษามาตรฐานคุณสมบัติศิลปินแห่งชาติ ที่ผมมีหน้าที่และพันธะทางจริยธรรมที่จะไม่นิ่งเฉย

มีการเข้าชื่อเรียกร้องให้ปลดนักเขียนดังกล่าวจากศิลปินแห่งชาติ และเรียกร้องไปยังมาเลเซีย ให้ระงับการที่นายธัญญาเป็นตัวแทนกวีไทยไปร่วมประชุมกวีอาเซียนที่กัวลาลัมเปอร์

นอกจากเสียงด่า ก็มีเสียงอวยปลาบปลื้มในปฏิภาณกวีอันสูงส่งของผู้เขียน

สะท้อนสภาพบางประการที่ยังฝังลึกในสังคมไทยๆ

การหนีของยิ่งลักษณ์ เป็น “จุดจบ” หรือ “บทเริ่มต้น” จึงยังเป็นคำถาม!!