“โชคดีอย่างยิ่งของคนไทยที่ได้มีชีวิตในยุคของพระองค์” สดุดีจาก “ยูเอ็นจีเอ”

จรัญ พงษ์จีน
AFP PHOTO / PORNCHAI KITTIWONGSAKUL

ถือเป็นความภูมิใจ ในฐานะพสกนิกรชาวไทย หากใครได้ติดตาม รับฟังการประชุม “สมัชชาสหประชาชาติ” หรือ “ยูเอ็นจีเอ” เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2559 ซึ่งจัดประชุมขึ้นเป็นกรณีพิเศษ เพื่อสดุดีและถวายพระเกียรติแด่ “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช”

กล่าวนำร่องโดย “ปีเตอร์ ธอมสัน” ผู้แทนถาวรฟิจิประจำยูเอ็นในฐานะประธานยูเอ็นจีเอสมัยสามัญครั้งที่ 71 ว่า พระองค์ทรงได้รับการยกย่องจากประชาชนชาวไทยและนานาประเทศ ทรงได้รับการทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลมากมาย ทั้งรางวัลความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์จากโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ

ทรงเป็นผู้นำในการดูแลดินและทรัพยากรธรรมชาติในด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน ทางสหประชาชาติจึงกำหนดวันที่ 5 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระองค์ เป็น “วันดินโลก”

“นายบัน คี มุน” เลขาธิการยูเอ็น กล่าวยกย่องว่า “พระองค์ทรงเป็นพลังที่สำคัญของประเทศในการรักษาความมีเสถียรภาพ ทรงทุ่มเทในพระราชกรณียกิจเพื่อพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชน”

“อับดุลเลาะห์ วาฟี” ตัวแทนสมาชิกจากทวีปแอฟริกา สดุดีในหลวง รัชกาลที่ 9 ของคนไทยว่า พระองค์ทรงคิดและพระราชทานโครงการพระราชดำริถึง 4,000 กว่าโครงการ ตั้งแต่โครงการชลประทาน จนถึงทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง การเสด็จสวรรคตของพระองค์ จึงไม่ใช่เพียงการสูญเสียของประชาชนชาวไทย แต่เป็นความสูญเสียของโลกทั้งมวล และแนวทางพัฒนาของพระองค์จะเป็นมรดกตกทอดไปทั่วทวีปแอฟริกา

“นางซาแมนธา พาวเวอร์” ผู้แทนถาวรอเมริกา กล่าวว่า “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงผูกพันอย่างมากกับสหรัฐอเมริกา ตลอดชีวิตของพระองค์ทรงจดสิทธิบัตรมากถึง 40 ฉบับ เนื่องจากทรงคิดค้นแนวทางแก้ปัญหาเดือดร้อนของประชาชน แนวคิดที่ล้ำหน้าอย่างยิ่งคือ “โครงการแก้มลิง” เนื่องจากทรงเห็นลิงเก็บกล้วยไว้เต็มสองแก้มแล้วค่อยเอามากินภายหลัง จึงทรงนำมาเป็นแนวคิดทำโครงการแก้มลิง เก็บกักน้ำส่วนเกินในหน้าฝน เพื่อออมไว้ใช้ในช่วงหน้าแล้ง”

“นางซาเเมนธา” สรุปว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงใช้ชีวิตในฐานะผู้ให้ เพื่อรับใช้ผู้อื่น ไม่ใช่เพื่อได้รับการยกย่องชื่นชม นับเป็นโชคดีอย่างยิ่งของคนไทยที่ได้มีชีวิตในยุคของพระองค์

ขณะที่ “แมตธิว ไรครอฟต์” ผู้แทนถาวรประเทศอังกฤษ กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เสด็จขึ้นครองราชย์ ขณะที่สหประชาชาติเพิ่งก่อตั้งได้เพียง 1 ปี และประเทศไทยเป็นสมาชิกลำดับที่ 55 ของยูเอ็นในปีถัดไป สิ่งที่พระองค์ทรงทุ่มเทมาตลอด 70 ปี จะได้รับการจดจำว่า เป็นพระมหากษัตริย์ที่เสด็จฯ ไปทุกหนทุกแห่ง เพื่อช่วยเหลือราษฎรผู้ยากจน

บางส่วนที่ผู้นำบนเวทียูเอ็นทั่วโลก กล่าวสดุดียกย่องในหลวง รัชกาลที่ 9 ของคนไทย “นายวีรชัย พลาศรัย” ในฐานะเอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวร ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก กล่าวแสดงความขอบคุณต่อที่ประชุม ที่สหประชาชาติจัดประชุมเพื่อเทิดพระเกียรติ “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช”

“พระองค์เป็นแสงสว่างนำทางในประเทศ เป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชน เป็นเสาหลักทำให้เกิดเอกภาพในประเทศ” นายวีรชัยกล่าว และว่า วันที่ 5 ธันวาคม ยังได้รับการรับรองเป็น “วันดินโลก” อันมีที่มาจากโครงการการพัฒนาดินของพระองค์ ประเทศไทยภูมิใจที่ได้รับการแบ่งปันปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระองค์กับประเทศอื่นๆ”

ความโศกเศร้าครั้งยิ่งใหญ่ของประชาชนชาวไทย กับการสวรรคต เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2559 ไม่เพียงแต่เวทียูเอ็นจัดประชุมพิเศษ เพื่อสดุดีและถวายพระเกียรติแด่ “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช” เท่านั้น ยังมีประมุข ผู้นำนานาประเทศต่างพร้อมใจกันเดินทางมาแสดงความอาลัย และเข้าร่วมถวายสักการะพระบรมศพ กันเป็นจำนวนมาก

เช่น “สมเด็จพระราชาธิบดี จิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก” แห่งราชอาณาจักรภูฏาน เสด็จพระราชดำเนินพร้อม “สมเด็จพระราชินีเจตซุน เพมา วังชุก” มาประเทศไทย ทรงวางพวงมาลาถวายสักการะพระบรมศพ และทรงร่วมพระราชพิธีธรรมสวดพระบรมศพ พร้อมทั้งลงพระนามาภิไธย ณ ศาลาว่าการพระราชวัง พระบรมมหาราชวัง เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม

จากนั้น 2 วันถัดมา “เจ้าชายคอลิฟะห์ บิน ซัลมาน อัล คอลิฟะห์” นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรบาห์เรน เสด็จฯ มาประเทศไทย ยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ทรงวางพวงมาลาถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และทรงพระอักษรแสดงความไว้อาลัย พร้อมทรงลงพระนาม ณ สำนักพระราชวัง หน้าพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย

และยังมีผู้นำหลายประเทศมีกำหนดการเข้าร่วมถวายสักการะพระบรมศพ เช่น “ยังดี เบอร์ตวน อากง” สมเด็จพระราชาธิบดีแห่งมาเลเซีย ราชวงศ์ระดับสูงซาอุดีอาระเบีย “ตะมีม บิน ฮะหมัด อัษษานี” ผู้ครองรัฐกาตาร์ “สมเด็จพระราชาธิบดีฮัจญีฮัสซานัล โบลเกียห์ มูอิซซัดดิน วัดเดาะห์” และ “สมเด็จพระราชินีซาเลฮา” แห่งบรูไน

“ลี เซียน ลุง” นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ “เอ็ดการ์ ลังกา” ประธานาธิบดีสาธารณรัฐแกมเบีย “สมเด็จฮุน เซน” นายกรัฐมนตรีกัมพูชา “ทองลุน สีสุลิด” นายกรัฐมนตรี สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว “โรดริโก ดูแตร์เต” ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ และ “ดีโจโค วิโดโด” ประธานาธิบอินโดนีเซีย

ประมุข ผู้นำทั่วทุกมุมโลก เดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพ “ในหลวง รัชกาลที่ 9” ของพสกนิกรชาวไทย