ภาพยนตร์ / นพมาส แววหงส์/ DARK CRIMES ‘โลกอันมืดมน’

นพมาส แววหงส์

ภาพยนตร์ / นพมาส แววหงส์

 

DARK CRIMES

‘โลกอันมืดมน’

 

กำกับการแสดง Alexandros Avranas

นำแสดง Jim Carrey  Marton Csokas  Charlotte Gainsbourg

 

ถึงแม้จะมีนักแสดงนำคือจิม แคร์รี่ แต่ก็อย่าคาดหวังจะให้เป็นหนังตลกตามสไตล์บ้าคลั่งของเขา หรือแม้แต่ในแนวดรามาบางเรื่องที่เขาพยายามขยายแนวการแสดงให้ออกนอกกรอบเรื่องตลกบ้าบอตามแบบฉบับที่ทำให้เขาโด่งดังขึ้นมา

ในหนังเรื่องนี้ จิม แคร์รี่ สลัดคราบนักแสดงตลกออกหมดจด สวมบทบาทของตัวละครที่มีด้านมืดมากกว่าด้านสว่าง และยกเครื่องเปลี่ยนรูปโฉมใหม่จนไม่เหลือความเป็นจิม แคร์รี่ คนเดิมให้เห็นเลย

นี่เป็นหนังที่ดำมืดดังชื่อเรื่องไม่ผิด

เตือนให้เรานึกว่า นอกจากโลกปกติอย่างที่เราเห็น และใช้ชีวิตที่ถือว่า “ปกติสามัญ” อยู่นี้ ยังมีผู้คนที่ใช้ชีวิตอเนจอนาถอยู่โลกอีกใบภายใต้เงามืด ความโหดร้าย การกดขี่ และความเน่าเฟะของสังคม ราวกับว่าอยู่กันบนดาวคนละดวง บนโลกคนละโลก

 

เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นในโปแลนด์ ซึ่งเป็นประเทศที่ปกครองแบบสังคมนิยมตามแบบสหภาพโซเวียตเดิม

หนังเปิดด้วยภาพชวนสยองของหญิงสาวเปลือยที่โดนแขวนต่องแต่งจากเพดาน สาวในชุดล่อนจ้อนถูกล่ามโซ่คลานสี่ขาเหมือนฝูงสุนัขที่เจ้าของจูงไป

ทั้งหมดนี้เป็นวิดีโอที่ถ่ายมาจากเซ็กซ์คลับใต้ดินที่ชื่อว่า The Cage ซึ่งตอนนั้นปิดกิจการไปแล้ว เนื่องจากเกิดเรื่องขึ้น โดยนักธุรกิจคนหนึ่งถูกฆ่าตายในเซ็กซ์คลับ และมีตำรวจเข้ามาสืบหาตัวคนฆ่าและพยายามคลี่คลายคดีฆาตกรรม

ทาเดก (จิม แคร์รี่) เป็นนักสืบในกรมตำรวจของโปแลนด์ที่เคยมีเรื่องอื้อฉาวอัปยศและโดนลดตำแหน่งให้มาอยู่ในกรม

นอกจากปัญหาในอาชีพการงานซึ่งกำลังตกอับแล้ว ทาเดกก็กำลังมีปัญหาชีวิตครอบครัวกับภรรยา ซึ่งความสัมพันธ์ตึงเครียดจนทำท่าจะไปกันไม่รอด

รวมทั้งเขามีแม่ที่ป่วยหนักและต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิด ถึงขนาดที่ขอให้ลูกชายสัญญาว่าจะไม่ปล่อยให้เธอตายอย่างโดดเดี่ยวคนเดียว

ทาเดกเผอิญได้ฟังหนังสือเสียง (audiobook) ของนักเขียนชื่อคอสลอฟ (มาร์ตัน โซคัส) ซึ่งเคยอาศัยอยู่ในตึกที่เคยเป็นคลับใต้ดินดังกล่าว และข้อความในหนังสือพูดถึงฆาตกรรมที่มีรายละเอียดเหมือนกับฆาตกรรมที่เกิดขึ้นจริงแทบไม่ผิดเพี้ยน

ฆาตกรรมครั้งนั้นยังคงเป็นคดีที่ไม่มีการคลี่คลาย และหาตัวคนผิดไม่ได้

ด้วยความมั่นใจในข้อมูลที่เขาได้มาใหม่นี้ ว่าผู้ต้องสงสัยคือนักเขียนที่กำลังเปิดตัวหนังสือเล่มใหม่อยู่นี้ ทาเดกขออนุญาตผู้บังคับบัญชารื้อคดีขึ้นใหม่ และได้รับอนุญาตโดยมีเงื่อนไข เนื่องจากอธิบดีตำรวจปัจจุบันมีส่วนเกี่ยวข้องอยู่กับการสืบสวนคดีครั้งนั้นด้วย

จากนั้นทาเดกก็เริ่มติดตามคอสลอฟไปจนได้พบความสัมพันธ์ของเขากับคาเซีย (ชาร์ล็อตต์ เกนส์เบิร์ก) ซึ่งเคยเป็นหญิงบริการในเดอะเคจ

และเช่นเดียวกันชีวิตทั้งชีวิตของเขาพลิกผันไปอีกทาง ทั้งในเรื่องส่วนตัวและการงาน เรื่องราวทั้งหมดของหนังก็มีจุดพลิกผันอันไม่คาดคิดด้วย

 

ก็ออกจะคันปากอยากเล่าถึงจุดพลิกผันสำคัญจุดนี้อยู่หรอกค่ะ แต่ไม่เล่าดีกว่า เพราะไม่สมควรเล่าได้ในบทวิจารณ์ ซึ่งต้องกั๊กอะไรไว้บ้างโดยไม่เล่าให้คนอื่นฟังจนหมดเปลือก ไม่ให้เป็นสปอยเลอร์เสียหมด เผื่อว่าจะมีคนอ่านบางคนไปดูหนังเองจะได้ไม่เสียรส

บอกได้แต่ว่านี่คือจุดสำคัญที่สุดของหนังที่จะเผยให้รู้ในตอนสุดท้ายเลยทีเดียว

หนังดัดแปลงจากหนังสือชื่อ True Crime : A Postmodern Murder Mystery ซึ่งตีพิมพ์ในนิตยสาร เดอะ นิวยอร์เกอร์ เมื่อ ค.ศ.2008

ซึ่งเป็นเรื่องราวของนักเขียนที่เล่าเรื่องฆาตกรรมที่เขาลงมือทำจริงๆ

แต่หนังก็เพียงได้รับแรงบันดาลใจมา และนำมาดัดแปลง โดยไม่ได้เดินเรื่องเหมือนอย่างใน True Crime จริงๆ

 

อย่างที่บอกไว้ว่าจิม แคร์รี่ ปรับภาพลักษณ์ของตัวเองใหม่หมด เพื่ออวดความเป็นนักแสดงที่สามารถสวมบทบาทได้หลากหลาย ไม่ใช่ซ้ำซากย่ำอยู่กับที่ด้วยบทเดิมๆ

และแม้ว่าเขาจะเคยพยายามฉีกแนวจากบทตลกบ้าบอของตัวเองมาแล้วหลายครั้ง เช่นใน The Truman Show และ The Majestic เป็นต้น แต่ก็ยังไม่เคยฉีกแนวมาสุดขั้วสุดคาดแบบนี้

นี่เป็นหนังที่เสนอโลกด้านมืดที่ไม่มีอารมณ์ขันหรือความสว่างไสวใดๆ จริงๆ

ผู้เขียนไม่ชอบจิม แคร์รี่ หรอกค่ะ แต่ชอบ The Truman Show มาก ด้วยเนื้อหาที่นำเสนอได้อย่างน่าประทับใจในเรื่องเกี่ยวกับความบ้าคลั่งเรียลลิตี้โชว์ของโลกยุคใหม่ และการทำทุกเรื่องให้เป็นเรื่องที่ซื้อขายกันในเชิงพาณิชย์ได้หมด โดยไม่คำนึงว่าจะละเมิดสิทธิส่วนบุคคลหรือความเป็นส่วนตัวของใครบ้าง

แม้ว่าจิม แคร์รี่ จะพยายามฉีกแนวตัวเองจากการเล่นตลกบ้าบอมาแล้ว แต่ก็ยังอยู่ในกรอบของเรื่องราวแนวดราม่า-คอเมดี้

ไม่เคยเห็นจิม แคร์รี่ ในภาพที่หดหู่เศร้าสร้อย อับจน และมืดมนหนทางขนาดนี้มาก่อน

ภาพลักษณ์ของยุโรปตะวันออกยังคงเป็นแหล่งค้าประเวณี ยาเสพติด และความรุนแรงทางเพศอยู่ โดยยิ่งตอกย้ำให้รู้สึกมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมเสียอีก

แทบไม่อยากนึกว่ามนุษย์จะปฏิบัติต่อมนุษย์ด้วยกันเยี่ยงนี้ ถ้าทำแบบนี้ได้ ก็อย่าสักแต่ว่าเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเลย ถ้าเป็นสัตว์ก็คงโดนยิ่งกว่านี้อีกหลายเท่า

จนถึงขั้นที่นึกต่อไปว่าผู้คนที่เคราะห์ร้ายพวกนั้นทำกรรมอะไรมาหนอ ถึงได้ต้องเจอกับสภาพอันโหดร้ายทารุณแบบนั้น

 

นี่ไม่ใช่หนังประเภทที่ใครจะอยากดูซ้ำ อย่าว่าแต่จะนึกอยากดูสักหนเลย

แถมหนังก็ดูเหมือนไม่มีประเด็นสำคัญอื่นใดที่อยากจะบอกเล่า นอกจากภาพของความรุนแรงโหดร้าย สภาพสังคมอันชวนสังเวช

และเงื่อนงำในเรื่องที่พลิกกลับหน้าเป็นหลังเพียงเท่านั้น

พูดง่ายๆ คือไม่สนุก ไม่ชวนติดตาม และแม้จะนำไปสู่ความไม่คาดคิดขั้นสุดท้าย แต่ก็ไม่ได้ให้อะไรเกินไปจากนั้นอีก

ชาร์ล็อตต์ เกนส์เบิร์ก รับบทที่ชวนสังเวชมากที่สุดเท่าที่ผ่านมา

ส่วนมาร์ตัน โซคัส (Aeon Flux, Sin City, The Amazing Spider-Man 2) ก็รับบทของนักเขียนที่เขียนเรื่องที่มีเงื่อนงำจากฆาตกรรมจริง ซึ่งควรจะเป็นบทที่น่าสนใจมากกว่านี้เยอะ แต่เหมือนกับว่าบทของ “คอสลอฟ” ไม่ได้รับการพัฒนา ทั้งๆ ที่จะว่าไป ต้องถือว่าบทนี้เป็นแรงบันดาลใจสำคัญสำหรับหนังทั้งเรื่องเลยเชียว

เอาเป็นว่า ถ้าไม่ใช่คอหนังอาชญากรรมในโลกมืดที่ทนกับความหดหู่และความร้ายกาจจริงๆ ถ้าไม่ดูก็ไม่น่าเสียดายค่ะ