ขอแสดงความนับถือ

ขอแสดงความนับถือ

 

คอลัมน์จดหมาย ในหน้าถัดไป (หน้า 6)

มีข้อมูลเกี่ยวกับเทรนด์ ของ “สื่อ” และ “คน” โดยเฉพาะผู้สูงวัย

ซึ่งแน่นอนว่า ในปี 2567 มีอัตราเร่งแห่งการเปลี่ยนแปลงของ “สื่อ-คน” เร็วและแรงขึ้น

คงต้องเตรียมตัว เตรียมใจ รับสิ่งที่เปลี่ยนแปลง ให้เท่าทัน

 

แต่กระนั้น ก็ใช่ว่าเราจะทิ้ง “สิ่งเก่า” “สิ่งดั้งเดิม” ไปเสียหมด

อย่างน้อย ในคอลัมน์นี้ และในคอลัมน์จดหมาย

เรามีผู้อ่านอย่าง ปิยพงค์ เมืองหละปูน บรรณกร กลั่นขจร ไมตรี รัตนา ณัฐ ศรีบุรีรักษ์ สงกรานต์ บ้านป่าอักษร เป็นอาทิ

มีความเหนียวแน่น ตั้งใจ มีความสุขกับการเขียนจดหมาย ไปรษณียบัตร ถ่ายภาพ ทำกราฟิก ส่งมายังมติชนสุดสัปดาห์

อย่างสม่ำเสมอ

แน่นอน เมื่อเทียบกับยุคก่อน ต้องถือว่ามีปริมาณลดลงอย่างมหาศาล

ด้วยปัจจุบัน สื่อที่เราสามารถส่งถึงกันผ่านโซเชียล มีความเร็วในระดับ “วินาที”

หากไม่ตั้งใจ หรือมีใจรัก

ก็ยากนักที่จะนั่งลงเขียนจดหมาย ไปรษณียบัตร

ที่เสียเงิน เสียเวลา ในการส่งอีก

จึงขอคาระหนึ่งจอก สำหรับความรัก ความผูกพัน ที่มีต่อกัน

และหวังว่าคงจะสื่อสัมพันธ์กันต่อไป

ในปี 2567 ขออนุญาตให้ ปิยพงค์ เมืองหละปูน

เป็นตัวแทนสื่อสารกับผู้อ่านมติชนสุดสัปดาห์ทุกท่าน

“…แล้วก็มาถึงจนได้ สังคมของผู้สูงวัย

ความสมดุลของผู้คนหลากรุ่น หลายกลุ่ม เริ่มไม่สมดุลกัน

คนสูงวัยมากขึ้น

คนวัยทำงานน้อยกว่า

และเมื่อความสมดุลตามปกติไม่ปกติ

ความเดือนร้อนหลายๆ อย่างในการดำรงชีวิตก็เข้ามาแทนที่

รัฐบาลมากมายหลายประเทศ ไม่เฉพาะแต่ประเทศไทยเราเท่านั้น เล็งเห็นถึงความเดือดร้อนที่จะตามมาเหล่านี้

จึงเริ่มรณรงค์สนับสนุนผู้คนในวัยเจริญพันธุ์ ในวัยทำงานให้ (ขออภัย) ปั๊มลูกๆ กันให้มากขึ้น

เพื่อความสมดุลที่จะหวนกลับมากันอีกครั้ง

ก็คงจะยากหน่อย

เพราะผู้คนรุ่นใหม่ ในสภาพของโลกปัจจุบัน เผชิญปัญหาทั้งทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคม

ที่ต่างแก่งแย่ง ปากกัด ตีนถีบ

โดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจ เพื่อให้ชีวิตได้อยู่รอดกัน

จึงมองเห็นความยากลำบาก ที่จะดูแลเหล่าลูกๆ ที่จะเกิดมากัน

บางรายก็ขออยู่เป็นโสด มากรายก็ไม่ยอมมีบุตรกัน

หากจะมีก็แค่คนสองคน เป็นอย่างมาก

คนสูงวัยจึงเพิ่มขึ้น คนหนุ่มสาวก็น้อยลง

เมื่อเป็นเช่นนี้จะทำอย่างไรกันดี

แก้ปัญหาเฉพาะหน้ากันไปก่อนก็แล้วกันนะ ลูกๆ หลานๆ

ยังไงก็ขอให้เอาใจใส่ดูแลพ่อแม่ปู่ย่าตายายที่สูงวัยกันให้มากขึ้น

แน่นอนผู้คนส่วนใหญ่ต้องปากกัดตีนถีบ

ทำมาหาเลี้ยงตัวเอง เลี้ยงลูกเลี้ยงเต้าของตน

ความเหินห่างกับพ่อแม่ปู่ย่าตายายย่อมมีแน่

ผมเองก็มีประสบการณ์ของตนเองดูแลญาติผู้ใหญ่สูงอายุท่านหนึ่ง

แล้วเผอิญผมเป็นคนรักสัตว์ โดยเฉพาะพวกเจ้าสี่ขา หมาๆ แมวๆ ซึ่งเลี้ยงไว้หลายตัว

และพบว่า ความเหงาของผู้สูงวัย จะมีตัวช่วยที่ดีมากที่สุด ก็คือ เจ้าตูบเจ้าเหมียวพวกนี้แหละ

ที่ทำให้ท่านเหล่านั้น หายเหงาได้อย่างชะงัดนัก

เพราะพวกมันชอบเคล้าคลอ เอาอกเอาใจกับผู้คนไม่ว่าวัยไหน

จึงขอสวัสดีปีใหม่ ด้วยภาพๆ นี้

ภาพคุณยายดารา อวยชัย ที่ผมดูแลท่านมาหลายสิบปี

ภาพนี้คุณยายในวัย 84 ปี ในปี พ.ศ.2543

ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในบั้นปลาย ที่สวนเมืองลำพูน

โดยมีเจ้าขอด เจ้าท๊อฟฟี่ และนางตาหวาน คอยคลอเคลียอยู่ข้างๆ

ท่ามกลางแสงแดดอันอบอุ่นในช่วงเช้าของฤดูหนาว

สวัสดีปีใหม่ 2567 ครับ…”

ปิยพงศ์ (เมืองหละปูน)

เรืองชัย ทรัพย์นิรันดร์

อนึ่ง ก่อนขึ้นแท่นพิมพ์ อดีตบรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา มติชนสุดสัปดาห์ “เรืองชัย ทรัพย์นิรันดร์”

ในวัย 80 ปี และในฐานะนักหนังสือพิมพ์อาวุโส

วางบิล “สุดท้าย” 2 มกราคม 2567

“ลานิรันดร์” สู่ภพภูมิอันดี โดยสง่างามแล้ว

ขอลดธงครึ่งเสา อาลัย ไว้เป็นการเบื้องต้น •