ขอแสดงความนับถือ

ขอแสดงความนับถือ

ที่มามติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 18 - 24 สิงหาคม 2566
คอลัมน์ขอแสดงความนับถือ
เผยแพร่

ขอแสดงความนับถือ

 

สุทธิชัย หยุ่น แห่งคอลัมน์ กาแฟดำ

ฝาดเผื่อน กับ สูตรผสม “กาแฟการเมือง” แก้วใหม่ ที่ถูกนำมา “บังคับ” เสิร์ฟ ให้ชาวบ้าน “ดื่ม” อย่างไม่มีทางเลือก

เป็นกาแฟการเมือง แก้วใหม่ ที่เป็นการผสมผสานระหว่าง พรรคเพื่อไทยกับพรรครัฐบาลผสมชุดเดิม

อันนำไปสู่ข้อน่าสงสัยหลายประการ

เช่น สงสัยว่านโยบายของรัฐบาล “วาระพิเศษ” จะมีหน้าตาอย่างไร

สุทธิชัย หยุ่น บอกว่า เพราะหากฟังการแถลงข่าวของหลายพรรคที่เข้าร่วมรัฐบาลครั้งนี้

พบว่าอะไรที่หาเสียงเอาไว้

จะพลิกพลิ้วไปเป็นเพียง “เทคนิค” สร้างความนิยมเท่านั้น

ไม่มีข้อผูกมัดใดๆ ว่าเมื่อได้อำนาจรัฐมาแล้ว จะต้องทำตามที่นำเสนอไว้

เหมือนที่หมอชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตอบคำถามนักข่าวว่าที่เพื่อไทยหาเสียง “ไล่หนูตีงูเห่า” นั้นเป็นเพียง “เทคนิค” การหาเสียงเท่านั้น

มิได้มีเนื้อหาสาระจริงจังที่ใครควรจะต้องใส่ใจอะไรมากเลย

ปรากฏการณ์เช่นนี้ ทำให้ผู้ใช้สิทธิหย่อนบัตรครั้งที่ผ่านมา

ไม่ว่าจะลงให้พรรคเพื่อไทยหรือพรรคไหน ต้องตื่นจากภวังค์เก่า

และต้องเลิกเชื่อในคำพูดของนักการเมืองไปอีกนาน

 

สุทธิชัย หยุ่น ในฐานะสื่ออาวุโส เชื่อและย้ำว่า การที่ประเทศชาติจะก้าวไปข้างหน้าได้

คุณภาพของนักการเมืองจะต้องได้รับการปรับปรุงอย่างเป็นรูปธรรม

และเมื่อเราหวังพึ่งนักการเมืองรุ่นเก่าไม่ได้

เราก็ต้องหวังกับนักการเมืองรุ่นใหม่

นักการเมืองรุ่นใหม่ ที่ต้องมีสำนึกว่าหากยังเดินตามเส้นทางการเมืองแบบเดิม รังแต่จะสร้างความผิดหวังให้กับประชาชนคนไทยเท่านั้น

สุทธิชัย หยุ่น จึงหวังว่าหากพรรคก้าวไกล ในฐานะที่ได้คะแนนเสียงมาอันดับหนึ่ง ต้องเป็นฝ่ายค้านที่สร้างมาตรฐานการเมืองใหม่ขึ้นมา

มิได้เป็นฝ่ายค้านที่มีเป้าหมายเพียงเพื่อจะวิพากษ์วิจารณ์และตรวจสอบการทำงานของผู้มีอำนาจ ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง, นักวิชาการและทีมงานของฝ่ายผู้บริหารเท่านั้น

หากแต่ยังมีบทบาทที่ก้าวหน้ากว่าความหมายของ “พรรคฝ่ายค้าน” แบบเดิม ที่รอจังหวะอภิปรายในสภาเพื่อ “แสดงโวหาร” และความสามารถในการ “โต้วาที” หรือเพื่อ “แสวงหาแสง…และเสียง” แบบที่นักการเมืองรุ่นก่อนๆ เคยยึดเป็นหลักปฏิบัติมาตลอด

แต่เป็นฝ่ายค้านต้องประกาศตั้งทีมงานที่เป็นเสมือน “คณะรัฐมนตรีทางเลือก” ที่สามารถจะสื่อสารกับประชาชนได้ตลอดเวลาว่า

ในประเด็นที่ประชาชนกำลังเดือดร้อนและต้องการคำตอบจากรัฐบาลนั้น หากรัฐบาลทำเช่นนี้แล้วยังไม่ตอบโจทย์ของประชาชน พรรคฝ่ายค้านมีแนวทางที่แตกต่างไปจากรัฐบาลอย่างไร

ฝ่ายค้านที่มีคุณภาพต้องมีทั้งข้อมูล, แนวทางวิเคราะห์ และนำเสนอทางออกที่ทำให้ประชาชนเห็นว่าทุกปัญหามีทางออกมากกว่าที่รัฐบาลในขณะนั้นเป็นผู้ดำเนินการ

คณะรัฐมนตรีทางเลือก คณะรัฐมนตรีเงา ที่ควรมาทำงานประกบกับ “คณะรัฐมนตรีวาระพิเศษ” ที่สุทธิชัย หยุ่น เสนอ เป็นอย่างไร

พลิกอ่านที่หน้า 89

 

อ่านบทความของสุทธิชัย หยุ่น แล้ว

ลองมาพิจารณาดูว่า จะพยักหน้าเห็นด้วยหรือไม่

และเกิดอารมณ์ “ตลกร้าย” ตามมาหรือเปล่า

“ตลกร้าย” ที่เมื่อเรามี “รัฐบาลใหม่” ทั้งที

แทนที่จะเป็นความหวังใหม่ อันสกาวสุกใสของประชาชน และประเทศชาติ

แต่สิ่งแรกที่สุทธิชัย หยุ่น และเราอีกหลายๆ คนคิดไปถึง คือ มองหากระบวนการตรวจสอบ ถ่วงดุล

อันสะท้อนถึงความไม่ไว้วางใจต่อ “รัฐบาลใหม่” ตั้งแต่แรก

ทำไมเป็นเช่นนั้น

แน่นอน พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำตั้งรัฐบาลใหม่ จะต้องเป็นผู้ตอบ

ตอบทั้งผ่านคำพูด และผ่านการกระทำ

ไม่ใช่แค่ใช้ “เทคนิค” หลบเลี่ยง หรือเป็นข้ออ้าง “อะไรก็ได้”

เพื่อขึ้นเถลิงอำนาจเท่านั้น! •