ขอแสดงความนับถือ

ขอแสดงความนับถือ

ที่มามติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 16 - 22 ธันวาคม 2565
คอลัมน์ขอแสดงความนับถือ
เผยแพร่

ขอแสดงความนับถือ

 

มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับนี้

มีเรื่อง “3 จีน” อดีต-ปัจจุบัน-อนาคต มานำเสนอ น่าสนใจ

ว่าถึง “ในอดีต” ก่อน

คอลัมน์ My Country Thailand ของณัฐพล ใจจริง

นำเสนอชีวิต ‘จีนจน’ เมื่อครั้งน้ำท่วมพระนคร 2485

โดยโฟกัสไปยังชุมชนจีนริมทางรถไฟสายกรุงเทพฯ-ปากน้ำ ระแวกสามย่าน

อันถือเป็นแหล่งพำนักสำคัญของจีนจนแห่งหนึ่งในช่วงปลายทศวรรษ 2470-ทศวรรษ 2480

รถไฟสายปากน้ำมีสถานีต้นทางที่ตั้งกลางถนนพระราม 4 เป็นแหล่งจ้างงานแบกหาม ลากรถ ลูกจ้างห้างร้าน

จึงมีชาวจีนอพยพและเหล่าจีนจนจำนวนมาก มาพักอาศัยตามชุมชนบ้านไม้ เรือนแถว ที่มีค่าเช่าราคาถูก โดยตั้งเรียงรายตลอดริมทางรถไฟสายปากน้ำตามความยาวของถนนพระราม 4 ต่อเนื่องกันไป ตั้งแต่ย่านหัวลำโพง สะพานเหลือง สวนหลวง วังใหม่ สามย่าน

ด้วยสะดวกต่อการทำมาหากิน

แต่ก็มากด้วยความแออัด เสื่อมโทรม

ชุมชนคนจีนที่มีชีวิตไม่สุขสบายอยู่แล้ว จึงไม่ต้องบอกเมื่อเกิดน้ำท่วมใหญ่จะเพิ่มทุกข์หนักสาหัสสากรรจ์อย่างไร

“ขี้ขยะ แลสวะ ไหลมาเรื่อย

พอน้ำเอื่อย เฮเข้าไป ในบ้านฉัน

ต้องช้อนกวาด สาดออกไป ทุกวี่วัน

อีกปลิงนั้น มีมา ดูน่ากลัว”

คือภาวะความเป็นอยู่ในห้วงน้ำท่วมหนักนั้น

ซึ่งคนจีนต้องเจอสภาพเช่นนั้นเต็มๆ นอกเหนือจากต้องดิ้นรนเพื่อหายจนอยู่แล้ว

แต่นั่นดูเหมือนจะเป็นแค่ใน “อดีต”

ด้วยต่อมา คนจีนซึ่งแปรสภาพเป็นคนไทยเชื้อสายจีน สามารถสร้างเนื้อสร้างตัว จน “เหนือและรวย” กว่าคนไทยแท้ได้อย่างที่เห็นกัน

 

ดังนั้น ปัจจุบันจึงแทบจะนึกถึงภาพ “จีนจน” ไม่ออก

แถมยังเห็นคนจีนยุคใหม่ที่บุกเข้ามาในสังคมไทย

มิใช่หอบเสื่อ หมอนใบ อย่างอดีต

แต่หอบ “ทุน” ทั้ง “ขาวและเทา” เข้ามาต่อยอดกอบโกยประโยชน์จากสังคมไทย อย่างอู้ฟู่มากกว่า

คอลัมน์ “ก่อสร้างและที่ดิน” โดย นาย ต. ในมติชนสุดสัปดาห์ฉบับนี้ โฟกัสไปยังเรื่อง “เงินสีเทากับอสังหาฯ” ซึ่งกำลังโด่งดัง และอื้อฉาวอยู่ในขณะนี้

ซึ่งแน่นอน เงินสีเทาจากคนจีน ได้สะท้อนและประจานจุดอ่อนของ “ระบบ” ของไทย ที่เอื้อต่อการคอร์รัปชั่น พร้อมกับเปิดช่องกอบโกยผลประโยชน์โดยทุนสีเทาจากจีนอย่างน่ากังวล

นาย ต. แห่งคอลัมน์ก่อสร้างและที่ดิน จึงชวนตั้งคำถามว่า สังคมไทยจะเอาอย่างไร

จะปล่อยให้หนทาง “สีเทา” เติบโตต่อไป

หรือจะหาหนทางที่พอเหมาะพอดี มีความโปร่งใส เศรษฐกิจได้ประโยชน์ โดยไม่แย่งทรัพยากรกับคนไทย หรือไม่กระทบกับการซื้อบ้านของคนไทย

ที่สำคัญ รัฐบาลต้องมีนโยบายที่จะทำให้คนไทยมีรายได้สูงขึ้น

สามารถซื้อที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้ และมีนโยบายช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยให้มีที่อยู่อาศัย ควบคู่กันไปด้วย

มิใช่ปล่อยในอยู่ในเงื้อมมือ “ทุนสีเทา” จากจีน อย่างที่แลเห็นกันในปัจจุบัน

ส่วนในอนาคต

คอลัมน์กาแฟดำ ของสุทธิชัย หยุ่น ชี้ชวนให้จับตาคนจีน อีกคนหนึ่ง

นั่นคือ CZ หรือ Zhao Changpeng (จ้าว ฉางเผิง) ชาวจีน-แคนาดา

ผู้ร่วมก่อตั้งและเป็นซีอีโอของ Binance ซึ่งเป็นตลาดแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก

CZ ปีนี้อายุ 45 ถูกจัดอันดับรวยอันดับที่ 30 ของโลกด้วยความมั่งคั่งประมาณไว้ที่ 33,000 ล้านเหรียญ (ประมาณ 1.1 ล้านล้านบาท) ณ เดือนตุลาคมที่ผ่านมา

CZ เคยเป็น “ขวัญใจ” ของวงการคริปโต

ด้วยสามารถ “มั่งคั่งชั่วข้ามคืน”

CZ ผงาดขึ้นสู่ความโด่งดังในเวลาน้อยกว่า 180 วันหรือแค่ 6 เดือน ด้วยการดันให้ Binance กลายเป็นตลาดแลกเปลี่ยนคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ทำให้ร่ำรวยขึ้นมาอย่างพริบตา

แต่กระนั้นอย่างที่เห็น แม้จะรวยเร็ว แต่วงการคริปโตของโลกก็พังเร็ว

ปีที่ผ่านมาธุรกิจนี้ประสบความหายนะอย่างรวดเร็วเช่นกัน

เพื่อนและคู่แข่งของ CZ ล้มละลาย และล้มหายตายจากไปในพริบตาเช่นกัน

แน่นอนรวมถึงวงการเงินดิจิทัลในไทย ที่ปั่นป่วนและส่ออาการ “ป่วยหนัก” ไปด้วย

อนาคตของ CZ จ้าว ฉางเผิง จึงกำลังถูกจับตามอง ว่าจะเป็นอย่างไร จะยังยื้อได้อยู่หรือไม่

หากหมายเลข 1 อย่างเขาเอาไม่อยู่

ระบบเงินดิจิทัลของโลกรวมถึงไทย ก็มีสิทธิโคม่า หรือล้มพังพาบไปด้วย

อดีต-ปัจจุบัน-และอนาคต ที่เกี่ยวข้องกับจีน จึงมีผลสะเทือน อันชวนให้จับตามอง ด้วยประการฉะนี้ •