ขอแสดงความนับถือ

ขอแสดงความนับถือ

 

23 มีนาคม พ.ศ.2566

หรืออีกประมาณ 5-6 เดือนข้างหน้า

สภาผู้แทนราษฎรชุดปัจจุบันจะปฏิบัติหน้าที่ครบ 4 ปี

การเลือกตั้งใหม่กำลังจะเกิดขึ้น

ที่หน้า 16 ในมติชนสุดสัปดาห์ ฉบับนี้

อาจารย์สมชัย ศรีสุทธิยากร แห่งศูนย์วิจัยการเมืองและการพัฒนา มหาวิทยาลัยรังสิต

ในฐานะอดีตคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.)

ปูพื้นฐานใน “สิ่งน่ารู้” ให้รับทราบ

 

สิ่งน่ารู้ อาทิ

1. ค่าใช้จ่ายในการหาเสียง

เงินที่ใช้ในการหาเสียงของผู้สมัครรับเลือกตั้งไม่เกินคนละ 1.5 ล้านบาท

พรรคการเมืองใช้จ่ายได้ไม่เกิน 35 ล้านบาท

เป็นค่าป้ายโฆษณา รถแห่หาเสียง ผู้ช่วยหาเสียง ใบปลิวแผ่นพับเอกสารที่แจกจ่ายประชาชน ค่าโฆษณาในวิทยุ โทรทัศน์ อินเตอร์เน็ต ค่าเดินทาง ที่พัก และค่าใช้จ่ายต่างๆ

ผู้สมัครและพรรคการเมืองจึงต้องวางแผนการใช้จ่ายให้ดี

ขณะที่ประชาชนคงต้องช่วยกันจับตาการใช้จ่ายดังกล่าว

2. ห้ามการกระทำเพื่อจูงใจให้ลงคะแนน

ใน 5 กรณีคือ

1) ใช้เงินซื้อเสียง 2) ให้เงินต่อชุมชน วัด สถานศึกษา ฯลฯ 3) จัดให้มีมหรสพ 4) จัดเลี้ยง และ 5) ปราศรัยใส่ร้าย

3. การเลือกตั้งทั่วไป จะมีขึ้นภายในเวลา 45 วัน นับแต่วันที่สภาผู้แทนราษฎรสิ้นอายุ

เริ่มนับวันที่หนึ่งตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม พ.ศ.2566 และครบ 45 วันในวันจันทร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ.2566

โดยปกติคณะกรรมการการเลือกตั้งมักจะใช้วันอาทิตย์เป็นวันเลือกตั้ง

วันเลือกตั้งจึงอาจเป็นวันอาทิตย์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ.2566

ผู้จะสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ต้องเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งเพียงพรรคเดียวเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 90 วันนับถึงวันเลือกตั้ง

หากสมมุติว่าวันเลือกตั้งเป็นวันที่ 7 พฤษภาคม 2566 การนับย้อนหลัง 90 วัน จะตกราววันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2566

หากจะให้ปลอดภัยที่สุดควรสมัครเป็นสมาชิกพรรคใดพรรคหนึ่งที่ประสงค์จะลงเลือกตั้งให้เสร็จสิ้นก่อนสิ้นเดือนมกราคม พ.ศ.2566

นักการเมืองที่สังกัดพรรคหนึ่งแต่ใจอยู่อีกพรรคหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นประเภทงูเห่าหรือประเภทฝากเลี้ยง ก่อนสิ้นเดือนมกราคม พ.ศ.2566 คงต้องตัดสินใจในการลาออกจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

หากใจเย็นแล้วล้ำเวลาเข้าไปในเขต 90 วันดังกล่าว อาจถูกแช่แข็งทางการเมือง

อย่างไรก็ตาม เงื่อนปมการอยู่ครบวาระของสภาผู้แทนราษฎรที่มีมากมาย

และเป็นข้อจำกัดต่อนักการเมืองและพรรคการเมืองเป็นอย่างมากนั้น

อาจารย์สมชัย ศรีสุทธิยากร จึงบอกว่า ผู้สังเกตการณ์ทางการเมืองทั้งหลายประเมินว่าคงไม่แคล้วมีการยุบสภาก่อนครบวาระเพื่อหลบหลีกประเด็นปัญหาทั้งปวงข้างต้น

เนื่องจากการยุบสภาก่อน จะทำให้กฎหลายอย่างผ่อนคลายลง หายใจหายคอได้คล่องขึ้น

แต่ไม่ว่าจะอยู่ครบวาระ หรือยุบสภาก่อน

ฤดูกาลแห่งการเลือกตั้ง ก็กำลังจะมาถึงแล้ว

แม้ไม่อยากให้มองในเชิงลบเกินไป

ด้วยการเลือกตั้งควรจะเป็นความหวังที่จะทำให้ประเทศและประชาธิปไตยของเราดีขึ้น

แต่กระนั้น สักวา ของสมบัติ ตั้งก่อเกียรติ และชูเกียรติ วรรณศูทร ที่สะท้อนด้านลบออกมา ก็คงตรงกับความเป็นห่วงของหลายๆ คนที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น

จึงขอจบด้วยสักวา 2 บทและล้อบกรอบให้อ่านอีก 1 บท ภายใต้ความหวังว่า สิ่งลบๆ จะไม่บังเกิดขึ้น

 

สักวา สงครามไหม้ลามทุ่ง

หว่านเงินกันเป็นกระบุงจนยุ่งเหยิง

ชาวบ้านหลงดีใจในกองเพลิง

ยิ่งนับวันยิ่งระเริง

มันเป็นความทรามมากยากแก้ไข

ปากประชาธิปไตยแต่ใจชั่ว

ต่างซื้อสิทธิ์ขายเสียง เยี่ยงควายวัว

การเลือกตั้งจึงมั่วซั่ว ทั่วไปเอย

 

สักวาค่าหัว ตัว ส.ส.

เที่ยววิ่งล่อ เอาเถิดให้เกิดผล

เข้าพรรคโน้นออกพรรคนี้มีเล่ห์กล

ประชาชนสมเพชสังเวชใจ

ยกตัวเองเก่งกาจสามารถยิ่ง

โดยอ้างอิงคำพูดพิสูจน์ได้

แท้ก็ขึ้นค่าหัวรายตัวไป

การเมืองไทยจึงจ้ำเบ้า “เหม็นเน่า” เอย •