“เซ็นทรัล รีเทล เวียดนาม” สยายปีกโตก้าวกระโดด รุกธุรกิจครอบคลุมกว่า 700 สาขา ตอกย้ำผู้นำค้าปลีกต่างชาติที่ใหญ่ที่สุดและเติบโตเร็วที่สุดในเวียดนาม

กรุงเทพฯ 12 ตุลาคม 2565 มร. โอลิวิเยร์ แลงเล็ต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เซ็นทรัล รีเทล เวียดนาม กล่าวว่า หลังจากเซ็นทรัล รีเทล ได้ปูพรมเดินหน้าปักหมุดการลงทุนในประเทศเวียดนามตั้งแต่ช่วงต้นปี 2555 ปัจจุบันได้แผ่ขยายศักยภาพและสร้างรากฐานที่มั่นคงในการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการพัฒนาชุมชน สังคม และเศรษฐกิจของชาวเวียดนามอย่างยั่งยืน จนวันนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่าเซ็นทรัล รีเทล ได้มุ่งสู่ความสำเร็จไปอีกขั้นของการเติบโตที่ก้าวกระโดดในตลาดเวียดนามอย่างแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น สร้างโอกาสให้กับธุรกิจ ตอกย้ำการเป็นผู้นำค้าปลีกต่างชาติรายใหญ่ที่สุดในประเทศเวียดนาม

แนวโน้มการเติบโตตั้งแต่ช่วงต้นปี 2565 ที่ผ่านมา เซ็นทรัล รีเทล เวียดนาม มีการไต่ระดับของรายได้พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจัยสำคัญมาจากศักยภาพทางเศรษฐกิจของเวียดนาม โดยล่าสุด GDP ไตรมาสที่ 3 เติบโตถึง 13.67% ประกอบกับการผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 ในประเทศเวียดนาม ทำให้ผู้บริโภคออกมาจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ตลอดจนยอดทราฟฟิกของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2565 ยอดขายในเวียดนามคิดเป็น 26% ของยอดขายเซ็นทรัล รีเทลทั้งหมด จากเดิมที่มีสัดส่วนอยู่ที่ 24% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ทั้งนี้คาดว่าภายในปี 2569 เซ็นทรัล รีเทล เวียดนาม จะสามารถกวาดรายได้ 1 แสนล้านบาท ตามเป้าหมายที่วางไว้ได้อย่างแน่นอน

สำหรับโรดแมปที่ เซ็นทรัล รีเทล ได้ประกาศเป้าหมายการลงทุนในเวียดนามด้วยงบ 30,000 ล้านบาท ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ปัจจุบันภาพรวมมีการเติบโตต่อเนื่องอย่างเห็นได้ชัด ถือเป็นการส่งสัญญาณบวกที่ดีในการเร่งเครื่องเดินหน้าต่อยอดธุรกิจอย่างไม่หยุดยั้ง ตามกรอบยุทธศาสตร์ CRC Retailligence ที่ได้ตั้งเป้าหมายกลยุทธ์การเติบโตภายในปี 2569 ในการขยายอาณาจักรธุรกิจค้าปลีกใน ทั้ง 3 กลุ่ม ทั้งกลุ่มฟู้ด กลุ่มน็อนฟู้ด อาทิ สินค้าประเภท Home & Entertainment, กีฬา และไลฟ์สไตล์ รวมถึงกลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ ให้เติบโตเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า ครอบคลุมกว่า 700 แห่ง จากเดิม 340 แห่ง ครอบคลุม 55 จังหวัด จากทั้งหมด 63 จังหวัดของเวียดนาม ตลอดจนการพัฒนาแพลตฟอร์มออมนิแชแนลให้แข็งแกร่งเติบโตขึ้นอีก 2 เท่า เป็น 15% และก้าวขึ้นเป็นเบอร์ 1 ด้านออมนิแชแนลในกลุ่มฟู้ด และพร็อพเพอร์ตี้ของเวียดนาม    

แผนเดินหน้าขยายธุรกิจของ เซ็นทรัล รีเทล เพื่อบรรลุเป้าหมายภายในปี 2569

·         รีแบรนด์บิ๊กซีทั้งหมด ให้กลายเป็นศูนย์การค้า GO! ที่ทันสมัย และท็อปส์ มาร์เก็ต ภายในปี 2566

·         เปิดท็อปส์ มาร์เก็ต เพิ่ม 3 สาขาในทุกปี ตามหัวเมืองต่างๆ ทั่วประเทศเวียดนาม

·        ขยายกลุ่มธุรกิจไฮเปอร์มาร์เก็ตเพิ่มขึ้นอีกกว่า 70 สาขา พร้อมทั้งพัฒนาและเปิดศูนย์การค้าใหม่รวมกว่า 70 สาขา ตอกย้ำการเป็นเบอร์ 1 ในด้านไฮเปอร์มาร์เก็ต และผู้นำด้านศูนย์การค้าไลฟ์สไตล์ของประเทศเวียดนาม

·         ต่อยอดธุรกิจในเมืองรอง โดยขยายธุรกิจ มินิ โก! เพิ่มขึ้น รวมกว่า 100 สาขา และยกระดับ ลานชี มาร์ท ให้กลายเป็นร้านค้าปลีกที่ทันสมัย และมีบริการครบครัน

·     พัฒนาธุรกิจ เหงียนคิม ให้กลายเป็นผู้นำทางด้านสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดแก่ผู้บริโภค และขยายสาขารวมกว่า 100 สาขา ตลอดจนการเปิดร้านใหม่ๆ ในรูปแบบสแตนด์อโลน

·      เดินหน้าพัฒนาและขยายธุรกิจที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคในทุกไลฟ์สไตล์ อาทิ คูโบ ศูนย์รวมความบันเทิงสำหรับเด็ก ตั้งเป้ามีจำนวนสาขารวมมากกว่า 100 สาขา และร้านค้าสินค้าเบ็ดเตล็ด ภายใต้แบรนด์ ลุคคูล ตั้งเป้ามีจำนวนสาขารวมกว่า 120 สาขา พร้อมกับการพัฒนาธุรกิจด้านสินค้าและอุปกรณ์กีฬาของ ซูเปอร์สปอร์ต ด้วยการนำแบรนด์กีฬาชั้นนำใหม่ๆ เข้ามาเติมเต็มความต้องการของผู้บริโภคที่มากขึ้น อีกทั้งขยายสาขาให้ได้รวมกว่า 170 สาขาทั่วประเทศ  

·     มุ่งมั่นพัฒนาช่องทางออมนิแชแนล เชื่อมโยงประสบการณ์การช้อปปิ้งในแบบออฟไลน์สู่ออนไลน์อย่างไร้ขีดจำกัดแก่ผู้บริโภค ตอกย้ำการเป็นผู้นำของเซ็นทรัล รีเทล ด้าน Next-Gen Omni Retail แห่งเอเชีย

การดำเนินธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล ในประเทศเวียดนาม จากวันแรกจนถึงวันนี้ได้สร้างปรากฏการณ์การเติบโตอย่างท้าทาย พร้อมทั้งขยายอาณาจักรครอบคลุมได้ทั้งพื้นที่ในหัวเมืองและต่างจังหวัด กระจายทั่วทั้งภูมิภาค ด้วยการวางแผนกลยุทธ์ที่มีเป้าหมายชัดเจนในการดำเนินธุรกิจ พร้อมทั้งมุ่งเน้นการเป็นศูนย์กลางของผู้บริโภค ที่เข้าใจความแตกต่างและไลฟ์สไตล์ของชาวเวียดนาม  และเติบโตร่วมกันไปพร้อมกับชุมชนและสังคมได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งนี้เชื่อมั่นว่าในอนาคต ศักยภาพของตลาดเวียดนามจะยิ่งเติมเต็ม และสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจค้าปลีกของเซ็นทรัล รีเทล ได้อย่างมั่นคงและแข็งแกร่ง เพื่อมุ่งสู่การเป็นผู้นำค้าปลีกแห่งอนาคตอันดับหนึ่งในภูมิภาคเอเชียอย่างเต็มภาคภูมิมร.โอลิวิเยร์ กล่าวสรุป

###

 

กี่ยวกับเซ็นทรัล รีเทล

บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็นทรัล รีเทล เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกสินค้าหลากหลายประเภทผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลาย (Multi-format and Multi-category) ในประเทศไทย และมีการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ โดยเป็นผู้นำในประเทศอิตาลีและเป็นหนึ่งในผู้นำในประเทศเวียดนาม เครือข่ายร้านค้าภายใต้แบรนด์ค้าปลีก 3,550 ร้านค้า (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565) อาทิ ห้างสรรพสินค้า, ร้านสะดวกซื้อ, ร้านขายสินค้าเฉพาะทาง, ซูเปอร์มาร์เก็ต, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, พลาซ่า และการจำหน่ายสินค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Omnichannel โดยธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล ครอบคลุมทั้งหมด 5 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่  (1) กลุ่มฮาร์ดไลน์ ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าตกแต่งและปรับปรุงบ้าน สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน หนังสือ และ e-Book ภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ไทวัสดุ บีเอ็นบี โฮม เพาเวอร์บาย ออฟฟิศเมท บีทูเอส เมพ และเหงียนคิม (2) กลุ่มฟู้ด ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภค และสินค้าที่มักพบได้ทั่วไปในร้านสะดวกซื้อภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ ท็อปส์ แฟมิลี่มาร์ท บิ๊กซี / GO! ลานชี มาร์ท ท็อปส์ มาร์เก็ต เวียดนาม และ มินิ โก (go!) (3) กลุ่มแฟชั่น ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต ซูเปอร์สปอร์ต และ เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป (4) กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งมุ่งเน้นการให้เช่าพื้นที่สำหรับร้านค้าของกลุ่มบริษัทฯ และร้านค้าและบริการของบุคคลภายนอก เช่น โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ท็อปส์ พลาซ่า และ บิ๊กซี / GO! เวียดนาม และ (5) กลุ่มเฮลธ์แอนด์เวลเนส ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายและให้บริการด้านสุขภาพคนและสัตว์เลี้ยง เช่น ท็อปส์แคร์ ท็อปส์วีต้า และ เพ็ทแอนด์มี โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565 เซ็นทรัล รีเทล ดำเนินธุรกิจใน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ทั้งหมด 58 จังหวัด, ประเทศเวียดนาม ทั้งหมด 41 จังหวัดและประเทศอิตาลี ในเมืองหลักๆ ทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565)