“ซีพีเอฟ” เคียงข้างสังคมไทย ชู”อาหารมั่นคง” ร่วมฝ่าวิกฤตโควิด -19    

ไม่ว่าครั้งใดที่สังคมไทยต้องเผชิญวิกฤต ปรากฎการณ์ความร่วมมือและน้ำใจจากทุกภาคส่วน จะหลั่งไหลส่งต่อความช่วยเหลืออย่างไม่ขาดสาย เช่นเดียวกับวิกฤตผลกระทบจากการระบาดของเชื้อโรคไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ตั้งแต่ต้นปี 2563  ที่กระทบวงกว้างทั้งต่อวิถีการดำเนินชีวิตของประชาชน  สังคม  และสิ่งแวดล้อม จนถึงการระบาดระลอกใหม่ ช่วงต้นปี 2564 ที่ยังไม่เห็นสัญญาณว่ายอดผู้ติดเชื้อและยอดผู้เสียชีวิตจากโควิดจะลดลงเมื่อใด แต่คนในสังคมไทยก็ไม่เคยถูกทอดทิ้ง

กว่า 1 ปี ของการระบาดของโควิด-19 เป็นช่วงเวลาที่ภาคเอกชนมีส่วนร่วมช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบและกลุ่มที่เดือดร้อนมาโดยตลอด โดยเฉพาะในเรื่องปัจจัยสี่ในการดำรงชีวิต คือ อาหาร  ตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด ประเทศไทยไม่ได้อยู่ในภาวะขาดแคลนอาหารเหมือนหลายๆประเทศ

บริษัทผู้ผลิตอาหารชั้นนำอย่าง บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ยืนเคียงข้างสังคมไทย ตามนโยบายของเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือเครือซีพี ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการบรรเทาความเดือดร้อน  ซีพีเอฟ จึงเดินหน้าส่งมอบผลิตภัณฑ์อาหาร ในโครงการ  “CPFส่งอาหารจากใจ  ร่วมต้านภัยโควิด-19″ เพื่อเป็นกำลังใจให้การปฏิบัติหน้าที่ของแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข  ช่วยเหลือกลุ่มที่เดือดร้อนจากผลกระทบของโควิด -19 เช่น ครอบครัวของบุคลากรทางการแพทย์ กลุ่มผู้ที่ต้องเฝ้าระวัง ผู้กักตัวหลังกลับจากต่างประเทศ กลุ่มเปราะบาง แรงงานต่างชาติ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี  รวมไปถึงความร่วมมือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ใน“โครงการอาหารปลอดภัยจากใจ…สู่ชุมชน” นำรถ Food Truck ออกมอบอาหารบรรเทาความเดือดร้อน ตั้งแต่การระบาดระลอกแรกให้ชาวชุมชนต่างๆ  วินมอเตอร์ไซด์ คนขับรถแท็กซี่ ฯลฯในพื้นที่กรุงเทพฯ   และเตรียมพร้อมนำรถ Food Truck ออกมาให้บริการอีกครั้งหากสถานการณ์เหมาะสม

การระบาดของโควิด 19 ตั้งแต่ต้นปี 2563  ซีพีเอฟส่งมอบอาหารให้โรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศรวมมากกว่า 200 แห่ง  สถานการณ์ระบาดระลอกล่าสุด  ต้นปี 2564 เครือซีพี พร้อมกลุ่มธุรกิจและบริษัทในเครือ ผนึกกำลังกันภายใต้โครงการ “ซีพีร้อยเรียงใจ สู้ภัยโควิด-19” ตามนโยบายของนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือฯ ที่ประกาศภารกิจเพื่อชาติสนับสนุนงบประมาณ 200 ล้านบาท ดำเนินการสนับสนุนอาหาร น้ำดื่ม และการสื่อสารให้แก่โรงพยาบาล โรงพยาบาลสนาม

ในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งดำเนินการไปแล้วมากกว่า 80 แห่ง  รวมไปถึงส่งมอบอาหารสำเร็จรูปพร้อมทานผ่านกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุและผู้เดือดร้อนจากโควิด-19  และการส่งมอบหน้ากากอนามัยซีพี 100,000 ชิ้น ผ่านกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อนำไปแจกจ่ายประชาชนในพื้นที่แออัด

นอกจากนี้ ซีพีเอฟเป็นส่วนหนึ่งที่ส่งความช่วยเหลือสู่ชุมชนคลองเตย ซึ่งมีผู้อยู่อาศัยอย่างหนาแน่น เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ของประเทศ  เครือซีพีได้ระดมบริษัทในเครือร่วมให้การช่วยเหลือ โดยใช้พื้นที่โลตัสพระราม 4 เป็นสถานที่ฉีดวัคซีน และซีพีเอฟส่งมอบอาหารปลอดภัยผ่านมูลนิธิดวงประทีป ส่งต่อความช่วยเหลือด้านอาหารไปยังชาวคลองเตยที่ต้องกักตัวจากการเป็นผู้มีความเสี่ยงสูง

นับตั้งแต่เริ่มต้นของการระบาดของโควิด-19 จนถึงปัจจุบัน ซีพีเอฟ  มุ่งมั่นใช้ศักยภาพ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจ ในฐานะผู้ผลิตอาหารชั้นนำระดับโลก ช่วยเหลือประเทศ ภายใต้กลยุทธ์ “อาหารมั่นคง” หนึ่งในสามเสาหลักสู่ความยั่งยืนของซีพีเอฟ ” อาหารมั่นคง สังคมพึ่งตน ดินน้ำป่าคงอยู่” ตอบโจทย์วิถีปกติใหม่(New Normal)หนุนการทำหน้าที่”พลเมืองที่ดี” ของสังคม  พร้อมเคียงข้างสังคมไทยให้ก้าวข้ามวิกฤตโควิด -19 โดยเร็ว