E-DUANG : มองภาพ สมาชิก วุฒิสภา กับ สัญญาณ การเปลี่ยน

ภาพอันปรากฏผ่านการอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติของสมาชิกวุฒิสภา คือภาพอันสะท้อนและยืนยันรากฐานทางความคิดและทางการเมืองแห่ง”ระบอบรัฐประหาร”อย่างชัดเจน

ไม่ว่าจะมองผ่านอดีต”ปลัดกระทรวง” ไม่ว่าจะมองผ่านอดีต เลขาธิการหน่วยงาน”ความมั่นคง”

นี่คือความเป็นจริงแห่ง”ระบบราชการ”แห่ง”ระบบการเมือง”

คนเหล่านี้ล้วนมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดแนบแน่นอยู่กับระบบราชการไทย ไม่ว่าจะเป็นทางด้านพลเรือน ตำรวจและทหาร หรือกระทั่งในแวดวงตุลาการ

เป็นความสัมพันธ์ในฐานะที่เป็น”ข้าราชการ” ถึงมิได้เป็นข้าราชการหากเป็นนักธุรกิจ เป็นองค์กรเอกชน เป็นสื่อ ก็ล้วนแล้วแต่ทำงานอย่างสัมพันธ์อยู่กับ”ระบบราชการ”

บางคนทำงานรับใช้”ระบอบรัฐประหาร”มาอย่างต่อเนื่องตั้ง แต่ก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 และได้รับความไว้วาง ใจจากรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557

ภาพอันปรากฏในที่ประชุมรัฐสภาจึงมิได้เป็นภาพเก่าแห่ง สมาชิกวุฒิสภาเก่า หากคือตัวแทนแห่งการเมืองเก่า

การเมืองเก่าที่ยังตกค้างอยู่ในระบบรัฐสภาปัจจุบัน

 

ไม่ว่าจะมองผ่านกระบวนการในทาง”ความคิด” ไม่ว่าจะมองผ่าน กระบวนการในทาง”การเมือง” ภาพใน”สมาชิกวุฒิสภา”สามารถ เห็นได้ผ่าน”สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร”

คุ้นตาอย่างยิ่งกับ สส.ระบบบัญชีรายชื่อของหลายพรรคการเมือง หรือแม้กระทั่งสส.ระบบเขตที่มาจาก”บ้านใหญ่”

ไม่ว่าจะมองเข้าไปยังพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะมองเข้าไปยังพรรคภูมิใจไทย ไม่ว่าจะมองเข้าไปยังพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าจะมองไปยังพรรคชาติไทยพัฒนา

แม้กระทั่งที่เดินเหินและมีบทบาทอยู่ในพรรครวมไทยสร้าง ชาติ พรรคพลังประชารัฐ ก็แทบไม่มีความแตกต่างไปจากที่เดินเหินอยู่ในสถานะแห่ง”สมาชิกวุฒิสภา”

บรรยากาศของการดำเนินญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปของสมาชิกวุฒิสภาจึงแทบไม่ต่างไปจากภาพการเมืองในอดีต

เป็นอดีตก่อนพรรคอนาคตใหม่ ก่อนพรรคก้าวไกล

 

หากเห็นว่าการเกิดขึ้นของพรรคไทยรักไทยคือก้าวสำคัญเมื่อปี 2544 การเกิดขึ้นของพรรคอนาคตใหม่คือก้าวสำคัญของปี 2562

อย่าได้แปลกใจที่พรรคไทยรักไทยกำชัยเหนือพรรคอื่น

พรรคไทยรักไทยกำชัยเหนือพรรคประชาธิปัตย์ทั้งที่เพิ่งก่อตั้งได้เพียง 2 ปี เช่นเดียวกับที่พรรคก้าวไกลกำชัยเหนือพรรคเพื่อไทยทั้งๆที่เพิ่งก่อตั้งได้เพียง 3 ปี

ปรากฏการณ์พรรคไทยรักไทยคือสัญญาณ ปรากฏการณ์พรรคก้าวไกลคือสัญญาณอันนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง