E-DUANG : ภารกิจ ของ จักรภพ เพ็ญแข ภารกิจ ประสาน คนเสื้อแดง

การมาของ นายจักรภพ เพ็ญแข ถูกโยงให้สัมพันธ์กับการมาของ นายทักษิณ ชินวัตร และการจะมาในวันข้างหน้าของ นส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

ไม่เพียงเพราะ นายจักรภพ เพ็ญแข ยอมรับว่าเคยต่อสายพูดกับ นายทักษิณ ชินวัตร ทางโทรศัพท์

แม้มิได้ระบุว่าเป็นการต่อสายเมื่อใด แต่รับรู้ว่าไม่นาน

หากแต่ที่สำคัญเป็นอย่างมากยังอยู่ที่ นายจักรภพ เพ็ญแข ก็ยืนยันการมาของตนว่าเข้ามาเพื่อร่วมส่วนในการช่วยเหลือและทำงานร่วมกับรัฐบาล

เป็นในส่วนของพรรคเพื่อไทยอย่างแน่นอน มิได้เป็นส่วนหนึ่งของพรรคภูมิใจไทย ยิ่งพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคพลังประชารัฐยิ่งมิใช่

อย่าลืมเป็นอันขาดว่า นายจักรภพ เพ็ญแข มีประวัติศาสตร์ร่วมกับ นายทักษิณ ชินวัตร ตั้งแต่พรรคไทยรักไทย เคยเป็นกำลังสำคัญของพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน

ไม่เพียงแต่เป็นโฆษกนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลพรรคไทยรักไทยหากยังเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลพรรคพลังประชาชน

การมาของ นายจักรภพ เพ็ญแข จึงเป็นที่รู้โดยอัตโนมัติ

 

ภารกิจของ นายจักรภพ เพ็ญแข จึงถูกมองและประเมินว่าเป็นการมาในลักษณะนำร่อง หยั่งสถานการณ์ก่อนการมาของ นส.ยิ่ง ลักษณ์ ชินวัตร

ประเมินว่า นายจักรภพ เพ็ญแข จะประสบปัญหาอย่างไรและจะคลี่คลายขยายตัวไปอย่างไร

ภายใต้การนำหน้าของ นายทักษิณ ชินวัตร

ภารกิจของ นายจักรภพ เพ็ญแข จึงสัมพันธ์กับการมาของ นายทักษิณ ชินวัตร เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2566 และสัมพันธ์กับทิศทางของพรรคเพื่อไทย

เนื่องจาก นายจักรภพ เพ็ญแข เคยมีบทบาทร่วมกับ นายวีระ มุสิกพงษ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ตั้งแต่ยังเป็น”นปก.”ก่อนพัฒนาการมาเป็น”นปช.”

บทบาทของ นายจักรภพ เพ็ญแข จึงเป็นบทบาทในการเป็นตัวเชื่อมและป่าวเทวฤทธิ์เรียก”คนเสื้อแดง”กลับพรรคเพื่อไทย

 

เมื่อ นายวีระ มุสิกพงศ์ แพ้ต่อสังขารค่อยๆหมดบทบาทในทางการเมือง เมื่อ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ไปยืนอยู่ตรงกันข้าม

ขณะที่ นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ มิอาจเคลื่อนไหวได้คล่องตัว

ภารกิจในการต่อสายและเชื่อม”คนเสื้อแดง”ที่เคยร่วมต่อสู้ตั้งแต่เดือนเมษายน 2552 จึงมึความจำเป็นเพื่อสร้างรากฐานใหม่ให้พรรคเพื่อไทยและเตรียมรับมือการเมืองในอนาคตอันใกล้

เส้นทางของ นายจักรภพ เพ็ญแข จึงเป็นเส้นทางที่ประสานและกลมกลืนไปกับเส้นทางของพรรคเพื่อไทย