E-DUANG : ท่าที สำแดงออก ต่อ”หยก” สะท้อน ตัวตน ของ”ผู้ใหญ่”

กรณีของหยก”ได้กลายเป็นหินลองทองอันทรงความหมายยิ่งในการจำแนกแยกแยะผู้ใหญ่”

แยกแยะว่าเป็นทองแท้” หรือว่าเป็นทองไม่แท้”

การจะพิสูจน์กรณีนี้ได้อย่างแม่นยำย่อมไม่มองแต่เพียงภาพอันเป็น”ปรากฎการณ์” หากแต่มีความจำเป็นต้องพิจารณาอย่างลึกซึ้งไปถึง”แก่นแท้”

แก่นแท้ของผู้ใหญ่” ตัวตนอันแท้จริงของผู้ใหญ่”

รักและห่วงใยต่อหยก”อย่างที่หยกเป็นอยู่ หรือว่าเสมอเป็นเพียงการนำเอาหยก”มาเป็นเครื่องมือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องมือในทางการเมือง

จุดเริ่มต้นแห่งการทำความเข้าใจต่อผู้ใหญ่จึงไม่ควรดำเนินไปในลักษณะอันเป็นการตัด เป็นการทอนเฉพาะตอนใดตอนหนึ่งหากแต่ต้องพิจารณาอย่างครบถ้วน

เหมือนอย่างบทสรุปจากความจัดเจนของ ไพบูลย์ สุวรรณกูฎ ที่เคยบอก คนต้องคนให้ทั่ว คนตั้งแต่หัวถึงตีน จึงจะเรียกได้ว่า คนๆนั้นเป็นคน”

บรรทัดฐานอย่างเที่ยงธรรมและเป็นวิทยาศาสตร์จึงต้องมองผ่านการกระทำ มองอย่างต่อเนื่อง มองอย่างเป็นกระบวนการ

 

ถามว่าจุดเริ่มต้นแห่งข่าวล่าสุดอันเกี่ยวกับหยก”มาจากเหตุการณ์ใด เด่นชัดยิ่งว่าเป็นเหตุการณ์เมื่อปรากฏภาพหยก”ไปเที่ยวสถานบันเทิงในย่านทองหล่อ

มีผู้ใหญ่”คนหนึ่งเห็นและได้ถ่ายเอาไว้แล้วนำไปเผยแพร่ในโลกแห่งโซเชียลมีเดีย

ถามว่าการเผยแพร่นี้มีจุดประสงค์ใด เป็นห่วง หรือเป็นอื่น

“ผู้ใหญ่”ท่านนี้ไม่เพียงถ่ายรูปเดียว หากแต่ได้ติดตามและถ่ายอย่างต่อเนื่องแทบจะเป็นซีรีส์ ไม่ว่าจะเป็นภาพบนท้องถนน ไม่ว่าจะเป็นภาพในสถานบันเทิง

สังคมจึงเริ่มตั้งข้อสงสัยในเจตนาการอันแท้จริงของผู้ใหญ่” และเมื่อย้อนกลับไปศึกษาท่าทีและความเห็นของผู้ใหญ่”ที่แสดง ต่อ”หยก”จึงยิ่งเกิดความแคลงคลางกังขา

แท้จริงแล้ว“ผู้ใหญ่”มีเจตนประสงค์ใด มีความห่วงใยหรือมีเป้าหมายเพื่อประจาน เปิดโปง

 

หากมองหยก”ว่าเป็นเด็ก เมื่อมองจากรากฐานแห่งผู้ใหญ่”การแสดงออกย่อมยืนยันว่า”ผู้ใหญ่”คิดอย่างไร

ห่วงใย ปรารถนาดี หรือปรารถนาดีแต่ประสงค์ร้าย

แต่ละภาพที่นำออกเผยแพร่ แต่ละถ้อยคำที่สะท้อนถึงการเคลื่อนไหวของ”หยก”หากศึกษาอย่างพินิจอย่างพิเคราะห์ก็จะมี ความเข้าใจในตัวตน

จิตใต้สำนึกที่ก่อรูปขึ้นเป็น“ความคิด”เมื่อสะท้อนออกเป็น“คำพูด”ย่อมชัดเจนอย่างยิ่งว่าเป้าหมายเป็นอย่างไร