E-DUANG : จังหวะ การเมือง ของ”ทักษิณ” กลับเชียงใหม่ กลับสู่ จุดตั้งต้น

ถูกต้องอย่างยิ่งที่ นายทักษิณ ชินวัตร เลือกที่จะเดินทางไปยังจัง หวัดเชียงใหม่

ไม่ว่าจะในทาง”ส่วนตัว” ไม่ว่าจะในทาง”การเมือง”

ในทางส่วนตัว เชียงใหม่เป็นบ้านเกิด เหตุผลที่ว่าต้องการจะไหว้บรรพบุรุษมีความเหมาะสม ชอบธรรม

ทั้งในด้านประเพณี”ไทย” ทั้งในด้านคนไทยเชื้อสาย”จีน”

ในทางการเมือง เชียงใหม่ถือเป็นรากฐานอันหนักแน่นและจริงจัง เป็นเหมือนกระดานหกที่ นายทักษิณ ชินวัตร สะสมความ จัดเจน สะสมกำลัง

ไม่เพียงแต่บิดาเคยเป็นสส.เชียงใหม่ หากแต่บิดายังสร้าง เครือข่ายเอาไว้อย่างแน่นหนาและมั่นคงตั้งแต่ต้นและเครือข่ายนั้นก็ดำรงอยู่ไม่เคยแปรเปลี่ยน

บาทก้าวแรกของ นายทักษิณ ชินวัตร ในฐานะนายตำรวจติดตามก็เป็นการติดตามรัฐมนตรีจากเชียงใหม่ อันเท่ากับเป็นการเข้าสู่ความเป็นจริงในทางการเมืองจากการปฏิบัติ

เมื่อตั้งพรรคไทยรักไทยนี่คือฐานที่มั่นใหญ่ เมื่อเกิดการต่อสู้ของ”เสื้อแดง”นี่คือเมืองหลวงอย่างแท้จริงของ”เสื้อแดง”

หากไม่มีเชียงใหม่ ก็ไม่มีขอนแก่น ก็ไม่มีอุดรธานี

 

การเดินทางไปเชียงใหม่จึงเท่ากับเป็นการพลิกฟื้นสร้างความคึกคักให้กับรากฐานทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยที่สืบทอดจาก พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน

ขณะเดียวกัน การเน้นบ้านเกิด การเน้นบรรพบุรุษยังเท่ากับเป็นคำประกาศอันเหมือน”สัญญาประชาคม”

เป็นการสื่อสารไปยัง นส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต้องสาว

เมื่อ นายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งนิราศจากบ้านเกิดไปอย่างยาวนานได้หวนกลับมาไหว้บรรพบุรุษยังเชียงใหม่ได้ท่ามกลาง การต้อนรับอย่างอบอุ่นและคึกคัก

นี่ย่อมเป็นสัญญาณให้รับรู้ร่วมกันอย่างเปี่ยมด้วยความหวัง ว่าเป้าหมายต่อไปในทางการเมืองคนที่จะมาไหว้บรรพบุรุษจะเป็นใครไม่ได้นอกเสียจาก”น้องสาว”คนเดียวที่อยู่ต่างแดน

นั่นก็คือ นส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นความหวังในบรรยากาศแห่ง”วันสตรีสากล”อันทรงความหมายยิ่งในทางการเมือง

 

ยอมรับเถิดว่าทุกก้าวย่างอันมาจาก นายทักษิณ ชินวัตร แนบแน่นอย่างยิ่งกับการเมือง

ไม่ว่าการเมืองของ นายทักษิณ ชินวัตร หรือพรรคเพื่อไทย

ที่โพลสำรวจความเห็นของประชาชนก็ปรากฏออกมาว่า นายทักษิณ ชินวัตร คือนักการเมืองที่ทรงอิทธิพลเป็นอย่างสูงเหนือกว่าทุกคนที่มีอยู่ในแต่ละพรรคการเมือง

ความเป็นจริงนี้ นายทักษิณ ชินวัตร รู้และตระหนักเป็นอย่างดี จังหวะในการเคลื่อนไหวจึงเป็นไปอย่างรัดกุม มากด้วยบทเรียน