บทสรุปจากความจัดเจนของสังคมไทยที่ว่า “หมาตาย เห็บโดด”สามารถอธิบายได้อย่างดี ต่อกรณีการหลุดออกมาของ”คลิปเสียง”การประชุมผู้ถือหุ้น ITV

หากไม่ปล่อยออกมาจาก”คนใน”ก็ยากเป็นอย่างยิ่งที่จะตกถึงมือของ แยม ฐปณีย์ ได้

ขณะเดียวกัน หาก”คนใน”ที่เข้าร่วมประชุมไม่ได้รู้สึกและบังเกิด”ความเฉลียว”ก็คงไม่มีการบันทึกรายละเอียดแต่ละถ้อยคำของคำชี้แจงไว้ด้วยเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์

เพราะเชื่อได้เลยว่าเมื่อผ่านพ้นการประชุมวันที่ 26 เมษายน มาแล้ว ก็มีสถานการณ์อันมั่นใจได้ว่าแต่ละหลักฐาน แต่ละรายละเอียดจะไม่หลุดออกไปสู่”ภายนอก”

ถามว่าเหตุปัจจัยอะไรทำให้เกิดการบันทึกไว้เป็นคลิป ถามว่าเหตุปัจจัยอะไรทำให้เกิดการตัดสินใจปล่อยหลักฐานนี้กระทั่งกลายเป็นอุปกรณ์สำคัญ

คำตอบ 1 ย่อมอยู่ที่ลักษณะอันผิดสังเกตและอย่างจงใจเพื่อสร้างสถานะของไอทีวีให้ดำรงอยู่ในฐานะแห่ง”สื่อ”ทั้งๆที่น่าจะจบไปแล้วจากสถานการณ์เมื่อปี 2550

คำตอบ 1 เท่ากับเป็นรูปธรรมแห่ง”หมาตาย เห็บโดด”

 

คำว่า”หมาตาย”เสมอเป็นเพียงคำเปรียบเทียบ โดยอิงกับสภาพที่เป็นจริงแห่งธรรมชาติของ”เห็บ”ที่รับรู้ว่าร่างกายของหมาอันอิงอา ศัยอยู่ในเริ่มถดถอยและโรยรา

คนที่ติดตามเส้นทางในการปรากฏขึ้นของข่าว”ถือครองหุ้นไอทีวี”ย่อมสัมผัสได้อย่างเป็นขั้นเป็นตอน

ที่มีการอ้างว่าได้มาจากภายในของพรรคก้าวไกลก็เด่นชัดเป็นลำดับว่าเป็นคนที่เคยสัมพันธ์กับพรรคอนาคตใหม่ แต่ภายหลังได้หันไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทย

ขณะเดียวกัน ก็มิได้เป็นเรื่องยากที่เอกสารจากคนซึ่งสังกัดอยู่กับพรรคเพื่อไทยจะมีการถ่ายโยงไปอยู่ในมือของ”นักร้อง”เสียงดีอันเป็นคนของพรรคพลังประชารัฐ

เป้าหมายก็เด่นชัดเป็นอย่างยิ่งว่าต้องการเตะสกัดขามิให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ได้สมหวังในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

 

ภายในการเคลื่อนไหวอย่างเป็นระบบ เป็นกระบวนการโดยการสมคบคิดระหว่างพรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติ คะแนนและความนิยมของพรรคก้าวไกลก็โดดเด่นเป็นสง่า

เป็นความโดดเด่นเป็นสง่าบนฐานแห่งคะแนนเสียงกว่า 14 ล้าน เป็นความโดดเด่นที่ความนิยมต่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ไม่ว่าเหนือ ใต้ ตก ออก มีความชัดเจน

ในความโดดเด่นของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ก็รับรู้ได้ในความถดถอยของบรรดาลุง ลุงแห่ง”ระบอบ 3 ป.”

จึงก่อให้เกิดสถานการณ์”หมาตาย เห็บโดด”ขึ้นมา