E-DUANG : ปรากฏการณ์ หาดใหญ่ สงขลา คำถาม จากสังคม จากการเมือง

จาก”ปรากฏการณ์ สะพานหิน ภูเก็ต” มายัง “ปรากฏการณ์ หาดใหญ่ สงขลา” ภายในขบวน”คาราวานก้าวไกล”กำลังฉายภาพอะไรในทางการเมือง

ไม่เพียงแต่เป็นการเมืองของพรรคก้าวไกล หากแต่ที่สำคัญยิ่งก็คือ เป็นการเมืองของภาคใต้ เท่ากับเป็นการนำเสนอ”ฉากทัศน์”ใหม่ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ

ต้องยอมรับว่าใน 2-3 ทศวรรษที่ผ่านมา การเมืองของภาคใต้เป็นการเมืองในความยึดครองของพรรคประชาธิปัตย์ เห็น ได้จากความเชื่อที่ว่า “ส่งเสาไฟฟ้าลงก็ได้รับเลือกตั้ง”

บารมีของ นายชวน หลีกภัย แผ่ไพศาล ต่อเนื่องผ่านยุคของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แม้กระทั่งในยุคของ นายจุรินทร์ ลักษณวิ ศิษย์ บารมีนั้นก็ยังเป็นของพรรคประชาธิปัตย์

อย่าว่าแต่พรรคก้าวไกลเลย แม้กระทั่งในยุคที่บารมีของ นายทักษิณ ชินวัตร แผ่ออกอย่างอึกทึกครึกโครม แต่ก็เป็นในพื้นที่อื่นยากเป็นอย่างยิ่งที่จะปักธงในภาคใต้ได้

การเกิดขึ้นของ”ปรากฏการณ์ สะพานหิน ภูเก็ต” ต่อเนื่องมายัง “ปรากฏการณ์ หาดใหญ่ สงขลา”จึงเหนือความคาดหมาย

และทำให้การไปเยือน”นครศรีธรรมราช”ภาพจะเป็นเช่นใด

 

ต้องยอมรับว่าในยุคแห่งพรรคอนาคตใหม่ การไปเยือนพื้นที่ภาคใต้ของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไม่เพียงแต่พบกับความเย็นชาและเฉยเมย

ตรงกันข้าม กลับประสบกับการต่อต้านและขับไล่ ไม่ว่าจะเป็นที่ภูเก็ต ไม่ว่าจะเป็นที่สงขลาหรือนครศรีธรรมราช

เพียงเวลา 4 ปีผ่านไปสถานการณ์ก็เกิดการแปรเปลี่ยน

การแปรเปลี่ยนแรกสุดสัมผัสได้จากที่เห็นในสะพานหิน ภูเก็ต ตามมาด้วยบรรยากาศแห่งความเป็นมิตรที่กระบี่และแม้กระทั่งในนครศรีธรรมราช

พลันที่”คาราวานก้าวไกล”เคลื่อนออกจากนราธิวาสก็สัมผัส ได้ในคลื่นแห่งประชาชนที่เข้ามาร่วม ยิ่งเข้าสู่พื้นที่จะลาและปัตตานีก็ยิ่งคึกคัก

นี่ย่อมเป็น”ปรากฏการณ์”ที่ควรสังเคราะห์เป็นอย่างยิ่ง

 

คำถามหนึ่งก็คือ การดำรงอยู่ของพรรคประชาธิปัตย์ยังมากด้วย บารมีหรือไม่ คำถามหนึ่งก็คือ การดำรงอยู่ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังเป็นความหวังหรือไม่

ยิ่งกว่านั้น ยังขึ้นอยู่กับ”สาร”ที่พรรคก้าวไกลต้องการ”สื่อ”เป็นการสื่อโดยประสานเรื่องในทางเศรษฐกิจสมัยใหม่พร้อม กันกับการชำแหละไปยังปัญหาในทางการเมืองอันหมักหมมมายาวนานในพื้นที่เป็น”สาร”ที่ตรงกับอารมณ์ในพื้นที่เพียงใด

ไม่ว่า”คนรุ่นใหม่” ไม่ว่า”คนรุ่นใหญ่”ที่ออกมาห้อมล้อม