เหตุปัจจัยอะไรทำให้พรรคก้าวไกล และ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ มี ความเชื่อมั่นเป็นอย่างสูงในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 14 พฤษภาคม

เป็นเพราะแนวโน้มที่แปรเปลี่ยนไปในทางอันเป็นคุณไม่ว่าจะสัมผัสใน”นิด้าโพล” ไม่ว่าจะสัมผัสใน”มติชน เดลินิวส์โพล”นั่นอาจเป็นเพียงส่วนหนึ่ง และส่วนหนึ่งนั้นคือ”แนวโน้ม”

เป็นแนวโน้มต่อความชมชอบ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และเห็นว่าเหมาะสมในตำแหน่ง”นายกรัฐมนตรี”ขณะที่แนวโน้มต่อการเลือกตั้งทั้งระบบเขต ระบบบัญชีรายชื่อก็ยังเป็นรอง

คำตอบจาก นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ คำยืนยันจาก นายชัยธวัช ตุลาธน ในฐานะหัวหน้าพรรค ในฐานะเลขาธิการพรรค ก็ดำเนินไปบนพื้นฐานของการร่วมมือกับพรรคเพื่อไทย

เนื่องจากในความเป็นจริงจากโพลทุกสำนักเด่นชัดอย่างยิ่งว่าคะแนนและความนิยมของพรรคเพื่อไทยของพรรคก้าวไกล เมื่อผนึกรวมก็จะเหนือกว่าต่ออีกฟากฝ่ายอย่างสิ้นเชิง

ปัญหาอยู่ที่ว่าพรรคเพื่อไทยจะเห็นชอบกับแนวทางและข้อเสนอของพรรคก้าวไกลหรือไม่

ตรงนี้พรรคก้าวไกลกำลังพิสูจน์ผ่านแต่ละ”ปรากฎารณ์”

 

ต้องยอมรับว่าวิถีแห่งโพลมีความพลิกผันแปรเปลี่ยนได้ จึงเป็น เพียงเครื่องมือหนึ่งในการอ่านอารมณ์และความรู้สึกของสังคมการเมือง มิได้เป็นปัจจัยชี้ขาดอย่างหมดสิ้น

กระนั้น ดัชนีแห่งโพลก็มาจากความเป็นจริงอันสะท้อนผ่านตัวอย่างจากการสุ่มเลือกและมาสังเคราะห์

ภาพจาก”สามย่านมิตรทาวน์”จึงเป็นเครื่องรองรับ ภาพจาก“สะพานหิน ภูเก็ต”จึงเป็นเครื่องยืนยัน แลยิ่งยืนยันมากยิ่งขึ้นเมื่อ ไปยัง”ลานสามกษัตริย์ เชียงใหม่”

ภาพจากบ้านบึง ศรีราชา พัทยา และสุดท้ายบนชายหาดบางแสน ยิ่งเป็นการตอกย้ำเพราะปราฏภายหลังการฟื้นคืนจิตวิญญารแห่งเสื้อเหลืองของพรรครวมไทยสร้างชาติ

คำถามอยู่ที่ว่าแต่ละ”ปรากฏการณ์”ที่เห็นอย่างเป็นรูปธรรมจะแปรเป็น”คะแนนเสียง”ในวันที่ 14 พฤษภาคมได้เพียงใด

 

นี่จึงเป็นประเด็นอันท้าทายเป็นอย่างสูง ไม่เพียงแต่ต่อพรรคก้าวไกลและ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เท่านั้น หากแต่ท้าทายต่อทุกพรรคการเมืองที่อยู่ในสมรภูมิ

เนื่องจาก”ปรากฏการณ์”ที่เห็นและเป็นอยู่เป็น”เรื่องใหม่”เป็นเรื่องที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในการเลือกตั้งเดือนเมษายน 2535 หรือแม้กระทั่งเมื่อเดือนมีนาคม 2562

การเคลื่อนไหวของพรรคก้าวไกลจึงอยู่บนแรงเสียดทานอัน ร้อนแรงและแหลมคม