ปฏิกิริยาของ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ต่อการออกมาคอมเมนต์สั้นๆของ บวรเดช รวมไทยสร้างชาติ

“วันๆดูแต่หนัง ทำงานบ้างไหม”แล้วปิดท้ายด้วยคำด่า

ด้วยประโยคสั้นๆในทำนองว่า “เป็น – – -(3 ตัวอักษรที่ขึ้นต้นด้วย ค แล้วปิดท้ายด้วย ย) อะไรครับ ไม่เสือกสิครับ”

กำลังจะเป็น”มีม” กำลังจะเป็น”ไวรัล”

มีคนรายงานว่า เพียง 1 ชั่วโมงผ่านไปมีคนเข้าไปอ่านทะลุ 1 ล้าน มีคนรีทวีต 20 K

บรรดาแฟนานุแฟนแสดงความชื่นชมอย่างถ้วนหน้า

อีก 1 ชั่วโมงต่อมา ปรากฏว่าทะยานไปแตะ 2.8 ล้าน รีทวีต 51.3 K แสดงความชื่นชม 14.5 K

ทั้งๆที่เป็นปฏิกิริยาและการตอบอย่างสั้นๆกระชับ ตรงเป้า ไม่อ้อมค้อม และติดจะพ่วงคำอันถือว่า”ไม่สุภาพ” เข้าไปด้วยในรูปประโยค

คำถามก็คือ อะไรคือเหตุปัจจัยแห่งความชื่นชม เป็นปฏิกิริยาต่อคนที่มาคอมเมนต์ หรือว่าสะสาแก่อารมณ์เมื่อได้อ่านแต่ละถ้อยคำจาก นายปิยบุตร แสงกนกกุล

ทั้งหมดนี้”สะท้อน”นัยยะอะไรในทางความคิด ในทางสังคม

 

จำเป็นต้องมองจากรากฐานความเป็น นายปิยบุตร แสงกนกกุล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเป็นนักเรียนเรียนดี ไม่ว่าเมื่ออยู่อัสสัมชัญ ไม่ว่าเมื่ออยู่ธรรมศาสตร์

เหล่านี้ได้หล่อหลอมตัวตนและความเป็น นายปิยบุตร แสงกนกกุล ออกมาเหมือนกับเป็น”พิมพ์”เด่น

นั่นก็คือ ความเป็นอาจารย์ ความเป็นนักวิชาการ สุภาพ

ปฏิมาของ นายปิยบุตร แสงกนกกุล แม้จะรับรู้ในความเข้มทางความคิด ทางการแสดงออกตั้งแต่ร่วมจัดตั้ง”นิติราษฎร” แต่สังคมก็เห็นในความหนักแน่นในวิชาการและความรู้

ยิ่งเมื่อ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ปรากกตัวพร้อมกับชุดขาว ผูกเนกไทด์เรียบร้อย พูดจาแต่ละครั้งก็มีเหตุมีผล สุภาพนุ่มนวล ยิ่งสร้างความประทับใจ

การนำเสนอคำว่า “ค” เรียงกับ”ว”และ”ย.”จึงตื่นตาตื่นใจ

 

ปฏิกิริยาครั้งนี้จึงเป็นอีกภาพหนึ่งของ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ที่เคยใกล้เคียงกับ”นิติราษฎร”คนอื่นๆ ที่เคยใกล้เคียงกับท่วงทำนองในแบบ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

กลายเป็นอีก”ปฏิมา”หนึ่งซึ่งดุเดือด เข้มข้นและร้อนแรง

กลายเป็นความรู้สึกสะสาแก่อารมณ์เมื่อสัมผัสได้ในเงาสะท้อนแห่ง”ปฏิกิริยา”โดยเฉพาะจากบรรดาแฟนานุแฟนที่ติดตาม นายปิยบุตร แสงกนกกุล

นี่ย่อมเป็นสภาพการณ์ใหม่ เป็นภาพใหม่ทางการเมือง