E-DUANG : เส้นทาง เลื่อนไหล นักการเมือง ผ่าน กระบวนการ “รัฐประหาร”

การเลื่อนไหลของตัวละครทางการเมืองอย่าง นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ น่าจับตาติดตามอย่างเป็นพิเศษ ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการเลื่อนไหลของ นายเอกณัฐ พร้อมพันธุ์

คนเหล่านี้ล้วนเคยเป็น”ขุนพล” คนสำคัญของพรรคประชาธิ ปัตย์ เคยเป็น ส.ส.กรุงเทพมหานคร

ต่อมาก็มีบทบาทในการ”ชัตดาวน์”การเลือกตั้งต้นปี 2557

เป็นปฏิบัติการร่วมกับมวลมหาประชาชนกปปส.ที่มี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นผู้นำ และมีส่วนอย่างสำคัญในการปูทางและสร้างเงื่อนไขทางการเมือง

นั่นก็คือ รัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557

เป็นการรัฐประหารบนพื้นฐานแห่งความต้องการ”ปฏิรูป”ก่อน”เลือกตั้ง” เป็นการรัฐประหารบนพื้นฐานแห่งการเสนอคำ ขวัญ “รักความสงบจบลงที่ลุงตู่”

นับแต่การเกิดขึ้นของ”กปปส.”ในเดือนตุลาคม 2556 นับแต่การเกิดรัฐประหารของคสช.ในเดือนพฤษภาคม 2557 เส้นทาง

นักการเมืองพรรคประชาธิปัตย์ก็เกิดอาการเลื่อนไหวต่อเนื่อง

 ไม่ว่าจะเป็น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ไม่ว่าจะเป็น นายพุทธิ พงษ์ ปุณณกันต์

สถานีแรกของ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ คือการเดินเข้าทำเนียบรัฐบาลพร้อมกับ นายณัฐพงษ์ ทีปสุวรรณ และ นายสกลธี ภัททิยกุล และเข้ารับตำแหน่งทางการเมือง

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี นายสกลธี ภัททิยกุล เป็นรองผู้ว่าฯกทม.

จากนั้น ทั้งสองก็เข้าเป็นกำลังสำคัญพรรคพลังประชารัฐ

บทบาทของพวกเขา ด้านหนึ่ง ดึงคนของพรรคประชาธิปัตย์ เข้ามาอยู่ด้วยกัน ด้านหนึ่ง เสริมกำลังและสร้างความแข็งแกร่งให้ กับพรรคพลังประชารัฐในกรุงเทพมหานคร

เป็นบทบาทเดียวกันกับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในพรรครวมพลังประชาชาติไทย เป็นบทบาทเดียวกับ นายเอกณัฐ พร้อม พันธุ์ เมื่อเป็นเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ

วันนี้มีข่าว นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ จะไป”ภูมิใจไทย”

หากมองจากพื้นฐานของพรรคประชาธิปัตย์ในยุค จอมพล ป. พิ บูลสงคราม ในยุค จอมพล ส.ธนะรัชต์ ในยุค จอมพล ถ.กิตติขจร

ต้องยอมรับว่าน่าตื่นตาตื่นใจ

กับการมาอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ หรือพรรคภูมิใจไทย

การเลื่อนไหลทางการเมืองในยุครัฐประหารเดือนกันยายน 2549 ต่อเนื่องมายังยุครัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557 จึงน่าตื่นตาตื่นใจอย่างยิ่ง

ยิ่งหากมองจากคำประกาศอันเปี่ยมคุณธรรมยิ่งตะลึงตึงตึง