มีปรากฏการณ์อย่างน้อยก็ 2 ปรากฎการณ์อันทำให้เกิดการแปร เปลี่ยนในลักษณะ”ก้าวกระโดด”กับกระบวนการรณรงค์”ขอคนละ ชื่อ ปลดล็อคท้องถิ่น”

1 เป็นปรากฏการณ์จาก นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ และ 1 เป็นปรากฎการณ์จาก “นายอาร์ม”

ต้องยอมรับว่าแคมเปญ”ขอคนละชื่อ ปลดล็อคท้องถิ่น”ที่ขับ เคลื่อนโดยคณะก้าวหน้า พรรคก้าวไกล ประสานกับภาคประชาสังคมและปัญญาชนสาธารณะเริ่มต้นอย่างขรึมขลัง

ในเมื่อมีปัญญาชนระดับ นายนิธิ เอียวศรีวงศ์ ผนวกเข้ากับ นายธเนศร์ เจริญเมือง การตัดริบบิ้นโดยมีวันที่ 1 เมษายน เป็นจุดเริ่มต้นสามารถเข้าใจได้

โดยกำลังสำคัญจากคณะก้าวหน้าเป็น นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล นายชำนาญ จันทร์เรือง และพรรคก้าวไกลส่ง นายวรเทพ วิริยะโรจน์ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ เข้ามาเสริม

แต่จากวันที่ 1 เมษายน จนถึงกลางเดือนพฤษภาคมจำนวนคนที่ร่วมลงชื่อก็เคลื่อนไหวต้วมเตี้ยมเชื่องช้าเป็นอย่างยิ่งอยู่ที่จำ นวน 26,288 แล้วก็ทำท่าว่าจะหยุดนิ่งเรื่อยๆมาเรียงๆ

กระนั้น เมื่อถึงวันเสาร์ที่ 4 ต่อเนื่องถึงวันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน จำนวนก็ทะยานแตะหลัก 50,000 อย่างปราดเปรียว

 

จากการวิเคราะห์ของบรรดา”เกจิ”ในทางการเมืองยอมรับว่ามีผลสะเทือนจากกรณี 1.3 กว่าล้านเสียงที่เทให้กับ นายชัชชาติ สิทธิ พันธุ์ ดำรงอยู่อย่างเด่นชัด

โดยเฉพาะเมื่อบทบาทของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ดำเนินไปบนหลักการ”ทำงาน ทำงาน ทำงาน”อย่างมีลักษณะกัมมันตะ

แต่อีกปัจจัยหนึ่งที่ทั้ง นายปิยบุตร แสงกนกกุล นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ต้องยกนิ้วให้ย่อมเป็นปัจจัยจากการไลฟ์สดของ”นายอาร์ม”

เพียงไม่กี่นาทีหลังจากนั้นจำนวนคนเข้าร่วมแสดงตัวก็ทะยานขึ้นอย่างเป็นไวรัล 4,000 คนในทันทีและแตะเข้าหลัก 50,

000 คนพร้อมกับเสียงกรีดร้องของ”กองเชียร์”ดังสนั่น

 

จำเป็นต้องสนใจบทบาทของ”นายอาร์ม”ในโลกโซเชียล มีเดียอย่างเป็นพิเศษ เพราะเขาประกาศตนเป็น รัฐมนตรีกระทรวงดีอีและเวทมนตร์อย่างเด่นชัด

คนแตะสายไปขอความร่วมมือคือ นายปิยบุตร แสงกนกกุล

อย่าได้แปลกใจหากจะตามมาด้วย นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร เพราะที่”วิโรจน์ก้าวไก่”ดังกึกก้องก็เพราะ”นายอาร์ม”

บทบาทและพลานุภาพ”นายอาร์ม”จึงควรจับตาติดตาม