มีการเคลือนไหวน้อยมากจากพรรคก้าวไกลภายหลังการแถลงข่าวกรณี นายถวิล ไพรสณฑ์ เดินทางเข้าสมัครเป็นสมาชิก”ตลอดชีพ”และเกิดข้อครหาในเรื่องเคยเคลื่อนไหวร่วมกับกปปส.มาก่อน

แม้จะเคยมีการอธิบายจาก กรรมการบริหารบางคนที่เคยรู้จักมักคุ้นกับ นายถวิล ไพรสณฑ์ มาก่อนหน้านี้ แม้จะมีคำอธิบายบาง ความรู้สึกจากคณะก้าวหน้าถึงความประทับใจต่อ นายถวิล ไพรสณฑ์

กระนั้น ภายหลังจาก นายถวิล ไพรสณฑ์ ออกมาให้สัมภาษณ์ยืนยันในระดับ 10,000 เปอร์เซ็นต์ว่าไม่ได้มีบทบาทในระดับเป็นแกนนำของกปปส.

ก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆจากพรรคก้าวไกล ไม่มีการเคลื่อนไหว ใดๆจากคณะก้าวหน้า ว่ามีท่าทีและความเห็นอย่างไรและจะให้บท บาทอย่างไรต่อ นายถวิล ไพรสณฑ์

กระแสเรียกร้องต่อ นายถวิล ไพรสณฑ์ กระแสเรียกร้องต่อพรรคก้าวไกล จึงเป็นกระแสกดดันจาก”ภายนอก”

ท่ามกลางความเงียบของพรรคก้าวไกลและคณะก้าวหน้า

 

ต้องยอมรับว่าสถานะและการดำรงอยู่ของ นายถวิล ไพรสณฑ์ เป็น การดำรงอยู่อย่างเป็นสมาชิกพรรค”ตลอดชีพ” แสดงเจตจำนงเด่นชัดว่าไม่ต้องการลงสมัครรับเลือกตั้ง

สถานะของ นายถวิล ไพรสณฑ์ จึงเป็นสถานะเหมือนกับสมา ชิกโดยทั่วไปของพรรคก้าวหน้า

จะมีบทบาทมากน้อยเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับ”กรรมการบริหาร”

และบทบาทเท่าที่ นายถวิล ไพรสณฑ์ ต้องการและสอดรับกับ ยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองของคณะก้าวหน้าและพรรคก้าวไกลที่จะทำงานร่วมกันคือ บทบาท”การกระจายอำนาจ”

นั่นก็คือ ทุกอย่างจะเริ่มต้นในเดือนเมษายน

 

จึงไม่แปลกที่บทบาทของ นายถวิล ไพรสณฑ์ จะค่อยๆเงียบลงไปเป็นลำดับตามพิมพ์เขียวของคณะก้าวหน้า และพรรคก้าวไกล

บทบาทของ นายถวิล ไพรสณฑ์ จึงขึ้นต่อจังหวะก้าว

เป็นบทบาทที่แล้วแต่คณะก้าวหน้าและพรรคก้าวไกลจะตกลงเห็นชอบร่วมกันมิได้มีอะไรมากไปกว่านั้น