E-DUANG : แนวรบ การต่อสู้ ของคนรุ่นใหม่ ศึกษา สถานการณ์ ไผ่ ดาวดิน

ในที่สุด หลังจากถูกคุมขังยาวนานกว่า 180 วัน ไผ่ ดาวดิน ก็ได้รับการปลดปล่อยออกมา

นี่ย่อมเป็น “สัญญาณ” อันน่าสนใจในทางการเมือง

นอกเหนือจากกรณีของ ไผ่ ดาวดิน แล้วมีแนวโน้มว่าโอกาสต่อไปอาจจะเป็นของ ไมค์ ระยอง

เพียงแต่ติดอยู่กับ”เงื่อนไข”บางเงื่อนไขจากศาลเท่านั้น

แม้จะได้รับความกรุณาจากศาล กระนั้น ก็ต้องยอมรับว่าความกรุณานั้นดำรงอยู่บนเงื่อนไขที่ ไผ่ ดาวดิน ยินยอมด้วยความพร้อมใจด้วย

นั่นก็คือ ไม่เพียงแต่จะต้องติดสัญญาณอีเอ็มเท่านั้น หากแต่ยังต้องให้คำมั่นว่าจะไม่เคลื่อนไหวทางการเมืองในลักษณาการเดียวกันกับที่เคยถูกฟ้องร้องอีกด้วย

ความยินยอมพร้อมใจเช่นนี้เท่ากับเป็นเครื่องยืนยันถึงการยอม

รับต่อเงื่อนไข และนำไปสู่การยุติในทางความคิดและในทางการเคลื่อนไหวที่เคยมีมาอย่างนั้นหรือ

นี่ย่อมเป็นคำถามอันแหลมคมยิ่งเบื้องหน้าสภาพการณ์

 

นับแต่การเคลื่อนไหวโดย”เยาวชนปลดแอก” ณ อนุสาวรีย์ประชาธิป ไตย เมื่อเดือนกรกฎาคม 2563 ประสานเข้ากับการเคลื่อนไหวของ”แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม”ในอีก 1 เดือนต่อมา

ต้องยอมรับว่าขบวนการเคลื่อนไหวของ”คนรุ่นใหม่”ดำเนินไปอึกทึกครึกโครมจนกลายเป็นกระแสสูงในทางการเมือง

กระทั่งในเดือนตุลาคมก็ยกระดับขึ้นเป็น”คณะราษฎร 2563”

จากเดือนกรกฎาคม 2563 มาถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ทำให้สังคมได้ประสบกับสถานการณ์การขึ้นและลงของการเคลื่อนไหวที่มีกระสูงและกระแสต่ำ

เนื่องจากมิได้เป็นการเคลื่อนไหวรุกอย่างด้านเดียว หากแต่ต้อง

ประสบกับการตั้งรับจากฝ่ายที่กุมอำนาจรัฐอย่างต่อเนื่อง

จึงเกิดสถานการณ์”รุก” จึงเกิดสถานการณ์”รับ”สลับกันไป

 

ณ วันนี้ อาจกล่าวได้ว่าการเคลื่อนไหวของ”คนรุ่นใหม่”แม้จะอยู่ในสถานะรุกในทาง”ความคิด” แต่กล่าวในทาง”การเมือง”ก็ต้องตั้งรับและถูกจำกัดกรอบและขอบเขต

นี่จึงเวลาอันสำคัญที่จะต้องมีการทบทวน หาบทสรุปเพื่อเป็นบทเรียนอย่างมีนัยสำคัญ