เริ่มมีการแฉเบื้องหลังของ”การเคลื่อนไหว”อย่างลงลึกไปยังจำนวนเงินที่ใช้ว่าจ้าง ไม่ว่าจะเป็น 1,200 บาท ไม่ว่าจะเป็น 2,000 บาท ไม่ ว่าจะทะยานไปถึง 3,000 บาท

มิได้เป็นการแฉในลักษณะ”กล่าวหา”ผ่านเครือไขของ IO

ตรงกันข้าม เป็นการแถลงผ่านปากของโฆษกกองบัญชาการตำ รวจนครบาล ซึ่งเป็น”ด่านหน้า”ในการเผชิญกับ”การเคลื่อนไหว”ในกทม.มาอย่างต่อเนื่องจากปี 2563

ทั้งยังระบุด้วยว่า มี”ข้อมูล”และ”หลักฐาน”อย่างเพียงพอว่าเป็นพรรคการเมืองหนึ่งซึ่งพร้อมจะเปิดโปง

ถือได้ว่าเป็นข่าวใหม่ ถือได้ว่าเป็นข้อมูลใหม่เร้าใจอย่างยิ่ง

ที่ผ่านมา บรรดาเยาวชนที่ออกมาเคลื่อนไหวอาจถูกเรียกได้ว่า เป็น”พวกสามกีบ” ซึ่งถูกบงการและควบคุมในทางความคิดโดยพวก ที่เรียกขาน”สามสัส”

บางเพจก็ระบุชื่อออกมาเลยว่าเป็นใคร อยู่พรรคการเมืองใด

การรุกคืบของกองบัญชาการตำรวจนครบาลถือได้ว่าเป็นความคืบหน้าและดำเนินไปอย่างเป็นทางการ

สร้างความตื่นตะลึงให้กับชุมชน”นักเคลื่อนไหว”เป็นอย่างสูง

 

หากยึดถือบรรทัดฐาน”การเคลื่อนไหว”ในอดีตมาเปรียบเทียบกับการเคลื่อนไหวของ”พวกสามกีบ”อันมีจุดเริ่มอย่างเป็นรูปธรรมนับแต่เดือนกรกฎาคม 2563 เป็นต้นมา

ก็ต้องยอมรับว่า ลักษณะของ”การเคลื่อนไหว”มีความแตกต่าง กันทั้งในทางรูปแบบและเนื้อหา

การเคลื่อนไหวในอดีตดำเนินไปอย่างชนิดปักหลัก ยืดเยื้อ พร้อมกับคำประกาศ”ไม่ชนะ ไม่เลิก”ไม่ว่าจะเป็นพันธมิตร ไม่ว่าจะเป็นเสื้อแดง ไม่ว่าจะเป็นกปปส.

แต่ของ”เยาวชน”คนรุ่นใหม่ดำเนินไปในแบบ แฟล็ช ม็อบ นั่นก็คือ รุกเร็ว ถอยเร็ว ไม่มีลักษณะยืดเยื้อในแต่ละครั้ง หากแต่ยืดเยื้อผ่านเนื้อหาในทางความคิดอันต่อเนื่อง

หากถือตามบรรทัดฐาน”อดีต” ค่าใช้จ่ายต้อง”มหาศาล”

 

พลันที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลระบุค่าว่าจ้างในการใช้เงินระดมคนเข้ามาชุมนุมในแต่ละครั้งที่สูงถึง 3,000 บาท ถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงเป็นอย่างมาก

หากวัดจาก”ความถี่”ในการชุมนุมอาจมิใช่ร้อยอาจเป็นพันล้าน

ยิ่ง”ความถี่”ในการชุมนุมเคลื่อนไหวในเดือนสิงหาคมอาจทะยานสู่หลัก”หมื่นล้าน”ได้อย่างรวดเร็ว

สถานการณ์”ล้างหู”คอยรับฟังจึงระทึกในดวงหทัยยิ่ง