ทั้งๆที่หวาดกลัวว่า การขับเคลื่อนของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นาย ปิยบุตร แสงกนกกุล ประสานเข้ากับของ น.ส.พรรณิการ์ วานิช จะทำให้กระแสเลือกตั้ง”ท้องถิ่น”จุดติด

กระนั้น ปรปักษ์ทางการเมืองของ”ทอน บูด ช่อ”ก็ยังงัดเอากลยุทธ์เดิม-เดิมหวนกลับมาใช้อีก

เพียงแต่คราวนี้เชื่อมเข้ากับแต่ละชีพจรของ”บ้านใหญ่”

กระนั้น บรรดาตัวละครหน้าเก่าที่เคยราวี “ทอน บูด ช่อ”บนเวทีการเมืองระดับชาติ ก็ออกโรงกันอย่างถ้วนหน้า ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอผ่านบทเพลง ไม่ว่าจะเป็นการยกป้ายไปตามจุดต่างๆ

ไม่ว่าจะเป็นที่สุรินทร์ ไม่ว่าจะเป็นที่ฉะเชิงเทรา ไม่ว่าจะเป็นที่พระนครศรีอยุธยา ไม่ว่าจะเป็นที่ชลบุรี ไม่ว่าจะเป็นที่สมุทรสงคราม ไม่ว่าจะเป็นที่สมุทรปราการ

และที่อึกทึกครึกโครมเป็นอย่างมากคือการเกณฑ์พลังจากกระบี่ไปรวมตัวกันหน้าโรงแรมนครศรีธรรมราช

และที่สุดก็นำเรื่องชงให้”กกต.”จัดการเหมือนทำกับอนาคตใหม่

 

ความจริงกลยุทธ์ที่งัดมาเล่นงาน ไม่ว่าต่อ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไม่ว่าต่อ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ไม่ว่าต่อ น.ส.พรรณิการ์ วานิช มิได้เป็นกลยุทธ์ใหม่

ตรงกันข้าม เคยใช้มาแล้วกับ นายทักษิณ ชินวัตร ตั้งแต่ก่อนรัฐ ประหารเมื่อเดือนกันยายน 2557

ใช้กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก่อนรัฐประหารพฤษภาคม 2557

และล่าสุดก็คือ ใช้กับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กระทั่งไม่สามารถเข้าแสดงบทบาทในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้ในฐานะที่ได้รับเลือกมาจากประชาชน

ถามว่าการยุบพรรคไทยรักไทยประสบผลสำเร็จหรือไม่ ถามว่าการยุบพรรคพลังประชาชนประสบผลสำเร็จหรือไม่ ถามว่าการยุบ พรรคอนาคตใหม่ประสบผลสำเร็จหรือไม่

หากสำเร็จทำไมมีพรรคเพื่อไทย ทำไมจึงมีพรรคก้าวไกล

รู้ทั้งรู้ว่ายุบพรรคอนาคตใหม่ก็เกิดพรรคก้าวไกล แถมยังมีคณะ ก้าวหน้าพ่วงมาอย่างคึกคัก หนักแน่น

 

เป้าหมายการเล่นงานคณะก้าวหน้าก็เพื่อยื้ดยุด นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล น.ส.พรรณิการ์ วานิช ทำลายคนที่ลงสมัครในนามคณะก้าวหน้า

ถามว่ากลยุทธ์นี้จะสามารถ”หยุด”กระแสต่อคณะก้าวหน้าลงได้หรือไม่