เผยแพร่ |
---|
การที่กองทัพบกยกประเด็น”ห้องบวรเดช”ขึ้นชูสูงเด่นในห้วงแห่ง 88 ปีของวันที่ 24 มิถุนายน 2475 มั่นใจได้เลยว่ามิได้เป็นเพียงอาการวูบวาบทางการเมืองอย่างแน่นอน
เพราะหากมองภาพของบุคลากรที่เข้าร่วมในพิธีกรรมทางศาสนา ณ กองบัญชาการกองทัพบก
5 เสือแห่ง”สำนักบังคับบัญชา”อยู่กันอย่างคึกคัก
ด้านหนึ่ง มีการยกย่องตัวบุคคลจาก”กบฎบวรเดช”อันเป็นสถานการณ์ซึ่งปะทุขึ้นเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2476
ด้านหนึ่ง มีการกดเหยียบเหตุการณ์การยึดอำนาจเมื่อเช้ามืดของวันที่ 24 มิถุนายน 2476 ให้เป็นรัฐประหารซึ่งมีความต้องการจะล้มสถาบันกษัตริย์
เด่นชัดว่าการกดเหยียบบทบาทของ”คณะราษฎร”ก็เพื่อที่จะชูบทบาทของ”กบฎบวรเดช”ให้สูงเด่น
นี่ย่อมเป็นประเด็นอันแหลมคมยิ่งในทาง”ความคิด”
สร้างความเชื่อมั่นเป็นอย่างสูงว่า กองทัพบกจะต้องตระเตรียม ทีมในทางวิชาการไว้อย่างพร้อมมูล
พิสูจน์ความยิ่งใหญ่ ยอดเยี่ยมแห่งวีรกรรมของ”กบฎบวรเดช”
พลันที่กองทัพบกนำเสนอพื้นที่ให้กับ”ห้องบวรเดช”ขณะที่มีปฏิบัติการลบเลือนความทรงจำอันเกี่ยวกับสถานการณ์เมื่อเดือนมิถุนายน 2475 อย่างต่อเนื่อง
การจะลบ”ประวัติศาสตร์”ให้พังราบเป็นผงฝุ่นมีความจำเป็นต้องเอาชนะในทาง”ความคิด”ลงให้ได้อย่างถึงรากฐาน
ไม่ว่าจะเป็นรากฐานแห่ง”ปฏิวัติ”กับรากฐานแห่ง”กบฎ”
เวลาที่ผ่านมา 88 ปีอาจเนิ่นนานเป็นอย่างยิ่ง แต่ก็ไม่เนิ่นนาน ถึงกับไม่มีหลักฐานทั้งในทางวัตถุ ทั้งในทางเอกสาร คงเหลืออยู่ให้พิสูจน์ทราบ
งานนี้จึงจำเป็นต้องมีทีมในทาง”วิชาการ”ที่มีสถานะและมีเกียรติภูมิในทางสังคมเสนอตัวเข้ามานำหลักฐานใหม่ การตีความใหม่ ที่อธิบายและเสริมเกียรติภูมิให้กับ “กบฎบวรเดช”
นี่ย่อมเป็นการลับคม สร้างพื้นที่ในทาง”ความคิด”อันทรงความ หมายยิ่งในทางประวัติศาสตร์
น่ายินดีที่ข้อเสนอว่าด้วย”ห้องบวรเดช”เป็นการจัดทำและนำเสนอมาโดย”กองทัพบก”
เป็นกองทัพบกยุค พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์
ซึ่งจะต้องหักล้างกับกองทัพบกยุค พ.อ.หลวงพิบูลสงคราม ซึ่งมีส่วนในการปราบ”กบฎบวรเดช”อย่างมีนัยสำคัญ