E-DUANG : พลานุภาพ โวหาร และข้อมูล กับ การอภิปราย ใน “รัฐสภา”

การอภิปรายในรัฐสภากำลังพิสูจน์ให้เห็นอย่างเด่นชัดว่า โวหารในแบบที่พรรคประชาธิปัตย์เคยโดดเด่นนั้นมิได้เป็น”จุดขาย”อีกต่อไปแล้ว

นอกเหนือจาก “โวหาร” แล้วพื้นฐานอย่างสำคัญที่สุดก็คือ “ข้อมูล”

ไม่ว่าจะจากการค้นหา ไม่ว่าจะโดยประสบมาด้วยตนเอง

ยิ่งกว่านั้น เมื่อมี “ข้อมูล”อันแน่นหนาอยู่ในมือแล้วจำเป็นต้องมี “การบริหาร” ข้อมูลที่ได้มาอย่างเป็นระบบ อย่างเป็นกระบวนการ

ความโดดเด่นจากการอภิปรายของ ส.ส.พรรคก้าวไกลคือสิ่งยืนยันให้เห็นอย่างเด่นชัด ไม่ว่าจะเป็น นายเอกภพ เพียรนิยม ไม่ว่าจะเป็น นายสุเทพ อู่อ้น

ส.ส.เหล่านี้ล้วนดำรงอยู่ในแบบ “โนเนม” แต่สามารถเร้าความสนใจได้อย่างเด่นชัด

วิธีวิทยาในการบริหาร”ข้อมูล”จึงทรงความหมาย

 

ภาพของพรรคการเมืองอันสำแดงตัวตนออกมาผ่านพรรคอนาคต ใหม่ต่อเนื่องมายังพรรคก้าวไกล จึงเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของการนำเอาวิธีวิทยาของการบริหารใหม่เข้ามาสร้างพรรค

เปรียบเทียบระหว่าง 1 พรรคพลังประชารัฐ กับ 1 พรรคอนาคตใหม่ จึงจะเห็นได้อย่างเด่นชัด

เด่นชัดตั้งแต่องค์ประกอบพื้นฐานตลอดจนบทบาทต่อสังคม

ถามว่าอะไรทำให้พรรคพลังประชารัฐปรากฏเป็นข่าวอย่างต่อเนื่อง ถามว่าอะไรทำให้พรรคก้าวไกลปรากฏเป็นข่าวอย่างต่อ เนื่อง โดยเฉพาะในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส

คำตอบต่อพรรคพลังประชารัฐ คือ ความขัดแย้ง แตกแยกแย่งชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค

คำตอบต่อพรรคก้าวไกล คือ การร่วมมือกันทำงานไม่ว่าจะอยู่ในห้วงปิดสมัยประชุมรัฐสภา ไม่ว่าจะเข้าสู่โหมดแห่งการเปิดประชุมรัฐสภา

สังคมได้เห็นภาพของพรรคก้าวไกล สังคมได้สัมผัสการเคลื่อนไหวและตื่นตัว

 

ที่เป็นเช่นนี้พื้นฐานอย่างสำคัญก็คือ พรรคก้าวไกลพัฒนาและต่อ เนื่องมาจากพรรคอนาคตใหม่

แม้พรรคอนาคตใหม่จะถูก”ยุบ” ตัดสิทธิกรรมการบริหาร

แต่เมื่อ ส.ส.ส่วนหนึ่งเดินหน้าไปภายใต้ร่มธงแห่งพรรคก้าวไกล ทุกอย่างก็ดำเนินไปได้ด้วยความคึกคัก เข้มข้น

เหมือนพรรคอนาคตใหม่ยังมี”ชีวิต”แม้จะถูกยุบไปแล้ว