เผยแพร่ |
---|
คำว่า “ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย” ได้เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติพลันที่มีคำสั่งยุบ พรรคอนาคตใหม่แล้วพรรคก้าวไกลก็ปรากฏขึ้น
เหมือนยุบพรรคไทยรักไทยแล้วเกิดพรรคพลังประชาชน
เหมือนยุบพรรคพลังประชาชนแล้วเกิดพรรคเพื่อไทย
เท่ากับพรรคอนาคตใหม่กำลังเดินย้ำซ้ำรอยไปกับพรรคไทยรักไทย เดินย้ำซำร้อยไปกับพรรคพลังประชาชน
เพราะเมื่อหลังจากยุบพรรคไทยรักไทย อดีตส.ส.จำนวนหนึ่งก็ย้ายไปอยู่พรรคเพื่อแผ่นดิน พรรคมัชฌิมาธิปไตย เพราะเมื่อหลังจาก ยุบพรรคพลังประชาชน อดีตส.ส.จำนวนหนึ่งก็กลายเป็นภรรคพูมิใจไทย
การที่อดีตส.ส.พรรคอนาคตใหม่จำนวนหนึ่งกระจายไปอยู่พรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ จึงกลายเป็น”ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย”
ภายในสภาวะซ้ำรอยในทางประวัติศาสตร์สภาวะผึ้งแตกรัง สภาวะการอ่อนตัวจึงปรากฏขึ้นให้เปรียบเทียบ
พรรคพลังประชาชนด้อยกว่าพรรคไทยรักไทยแน่นอน
ขณะเดียวกัน พรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชาชน ด้อยว่าพรรคไทยรักไทยอย่างเห็นได้ชัด
ยิ่งกว่านั้น อดีตส.ส.พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน หรือแม้กระทั่งพรรคเพื่อไทยจำนวนหนึ่ง หากไม่ถูกคำพิพากษาตัดสิทธิในทางงการเมืองก็ต้องติดคุกติดตะราง
หัวขบวนอย่าง นายทักษิณ ชินวัตร น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ต้องกลายเป็น “บักน่อย”หรือ”อีหล่า”ตุหรัดตุเหร่ ไม่สามารถอยู่ในประเทศได้
มีคำถามต่อว่ากรณีของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล จะถูกไล่ล่าหรือไม่
อาจกล่าวได้ว่าบทบาทของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ บทบาทของ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ได้จบสิ้นลงแล้วพร้อมกับการยุบพรรคอนาคตใหม่
บทลงโทษ”ตัดสิทธิ”ในทางการเมืองทำให้ต้องแยกขาดจากบทบาทในพรรคก้าวไกลอย่างสิ้นเชิง
คำถามอยู่ที่ว่านอกเหนือจากต้องขึ้นโรงขึ้นศาลเพื่อแก้ต่างให้กับตนเองในคดีที่ถูกแจ้งความและตระเตรียมฟ้องร้องจำนวนมากมายจะสามารถแสดงบทบาทอะไรได้หรือไม่
จะเดินแนวทางแบบ นายทักษิณ ชินวัตร จะเดินแนวทางแบบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือไม่