ปฏิบัติการให้สัมภาษณ์ผ่านสำนักข่าวรอยเตอร์ล่าสุดของ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ในเรื่องอันเกี่ยวกับสงครามไซเบอร์ ในเรื่องอัน เกี่ยวกับ Fake News มีผลสะเทือนอย่างกว้างไกล

ไม่เพียงแต่ทำให้ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ไปยืนอยู่แถวเดียวกับ “ลุงตู่”เท่านั้น

หากแต่ยังทำให้ทะยานไปต่อจากกระบวนแถวของ “ลุงเสรี” และ “ป้าสินจัย” ได้อย่างคึกคัก โดยแวดล้อมอยู่ด้วย”ลุงดี้”และ”ป้า ศัลยา”อย่างอบอุ่น

ยิ่งมีการพาดพิงไปยังพรรคการเมืองที่ตั้งขึ้นใหม่ ยิ่งทำให้ระยะห่างกับประดา”ฟ้ารักพ่อ”ไกลออกไปจนสุดกู่

นี่คือปัญหา”ช่องว่าง”ระหว่าง”วัย”อันน่าเป็นห่วง

 

หากใครติดตามบทบาทของ”ลุงเสรี”จะเห็นว่าลุงมีการนำเสนอบท ความขนาดยาวว่าด้วยสงครามข่าวสาร สงครามไซเบอร์ ว่ามีความจำเป็น

นี่เป็นเหตุผลและอารมณ์อย่างเดียวกันกับที่ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ แสดงออก

คงจำกันได้ว่า ก่อนหน้านี้ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ออกมายอมรับว่ากองทัพต่อกรกับกองทัพไซเบอร์ของคนรุ่นใหม่อย่างยากลำบาก

แม้ภายในศูนย์ไซเบอร์ของกองทัพบกจะมากด้วยเทคโนโลยีจะมากด้วยกำลังพล

เท่ากับสะท้อนมุมมองต่อการเคลื่อนไหวของ”คนรุ่นใหม่”ว่าน่ากลัวมากกว่า ขยายขอบเขตและปฏิบัติการทางออนไลน์ไปได้มากกว่า

เหมือนที่”ป้าเอ๋ ปารีณา”เคยแสดงความหวาดกลัวต่อกองทัพ ไซเบอร์ของ”อีช่อ”ทั้งที่ได้รับการปฏิเสธอย่างต่อเนื่องก็ไม่ยอมเชื่อ

ความเชื่อเช่นนี้จึงสร้างความหวาดกลัวไม่ว่าจะจาก”ลุงเสรี”ไม่ว่าจะจาก พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ก็ตาม

 

ท่าทีที่ออกมาจากลุงๆป้าๆจึงเป็นท่าทีที่เหมือนกับจะยอมรับกับสภาพความเป็นจริงที่สังคมกำลังอยู่ในห้วงแห่งการเปลี่ยนแปลงและดำเนินไปอย่างรวดเร็ว

เหมือนกับที่เคยเห็น 6.3 ล้านคะแนน

เหมือนกับจะเป็นการยอมรับความเป็นจริง แต่ก็เป็นการยอมรับด้วยความขื่นลึกในทางความคิด