ยังไม่ทันที่กรณี “อีช่อ” จะจางจากหายไป ก็เกิดกรณีพานพุ่มการจัดดอกไม้ในวาระแห่ง “วันไหว้ครู”เข้ามา

สร้างความหวั่นไหวให้กับลุงๆป้าๆอย่างน่าใจหาย

เพราะการปรากฏขึ้นของพานพุ่มการจัดดอกไม้เนื่องในวาระแห่ง”วันไหว้ครู” ได้เข้าสู่มิติใหม่

เด่นชัดยิ่งว่าเป็นผลสะเทือนจาก”บอลประเพณี”

ฟุตบอลประเพณีเป็นเรื่องที่นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกับนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

แต่นี่”วันไหว้ครู”เป็นเรื่องระดับ”มัธยม”

ไม่ว่าที่หนองคาย ไม่ว่าที่สกลนคร ไม่ว่าที่พิษณุโลก ไม่ว่าที่หอวังแทนที่จะดอกไม้อย่างเดียว

กลับมีภาพของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อยู่ด้วย

 

อย่าได้แปลกใจหากบางโรงเรียนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีพี่ทหาร พี่ตำรวจไปเยี่ยมเยียน

เหมือนที่เคยสวมเสื้อจุฬา-ธรรมศาสตร์ไปดูบอลประเพณี

แต่กรณีของ”วันไหว้ครู”หนักหนาสาหัสมากยิ่งกว่า เพราะเข้าประชิดตัวทีมนักเรียนที่เป็นเจ้าของพานพุ่มและการจัดดอกไม้ซะเลย

น่าสังเกตว่าก่อนการปรากฏขึ้นของข่าวไม่ว่าบนหน้าหนังสือ พิมพ์ ไม่ว่าบนจอโทรทัศน์บางช่อง

กลับแพร่กระจายทางด้าน”ออนไลน์” อย่างคึกคัก

แม้สื่อหนังสือพิมพ์บางฉบับ แม้สื่อโทรทัศน์บางช่องจะทำราวกับว่าไม่เคยมีพานพุ่มการจัดดอกไม้เกิดขึ้นในทางเป็นจริง แต่ความรับรู้ของสังคมอึกทึกครึกโครมอย่างยิ่ง

ไม่ว่ากรณีที่พี่ทหาร พี่ตำรวจไปเยี่ยมเยียนน้องๆ ไม่ว่าสีสันและความน่าตื่นตาตื่นใจของอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยและภาพของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

รวมถึงภาพคู่ปรับของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อีกด้วย

 

สถานการณ์ทางการเมืองกำลังแพร่ขยายเข้าไปในพื้นที่ทางความ คิด ทางวัฒนธรรม อย่างลึกซึ้งกว้างขวาง จากมหาวิทยาลัยไปยัง โรงเรียน สะท้อนความรู้จักคิด สร้างสรรค์

แม้ภายในความคิด การสร้างสรรค์ของพวกเขาจะบาดตาของบรรดาลุงๆป้าๆไปบ้าง

แต่การศึกษาคือการเจริญเติบโตมิใช่หรือ