เหมือนกับการได้มาซึ่ง 250 ส.ว.คือชัยชนะ คือความมั่นใจที่จะทำ ให้การต่อท่อแห่งอำนาจจากรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 มายังการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 มีความสมบูรณ์

แต่ชัยชนะจาก 250 ส.ว.ก็เช่นเดียวกับชัยชนะอันได้มาพร้อม กับ 11 ส.ส. 11 พรรคการเมืองนั่นเอง

นั่นก็คือ ดำเนินไปอย่างสะท้อนลักษณะ 2 ด้านการเมือง

เสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่อ 250 ส.ว.จึงอึกทึกครึกโครมไม่ต่างไปจากความเห็นต่อ 11 ส.ส.จาก 11 พรรคการเมือง นั่นก็คือ มาก ด้วยฉายา

ทุกอย่างอาจเริ่มต้นจาก”รัฐธรรมนูญฉบับนี้ DESIGN มาเพื่อพวกเรา” แต่ก็มิได้มีแต่”รายรับ”อย่างเดียว

ตรงกันข้าม ที่ตามมาคือ”รายจ่าย”มหาศาล

 

ความเป็นจริงที่มิอาจปฏิเสธได้ก็คือ แม้”รายรับ”จะมีความต่อเนื่อง กระนั้น “รายจ่าย”ก็มีความต่อเนื่องและดำเนินไปในลักษ ณะสามารถบานปลายได้

นั่นก็ขึ้นอยู่กับบทบาทของบุคคลเหล่านั้นจะสำแดงออกอย่างไร

พลันที่เห็น 11 ส.ส.จาก 11 พรรคการเมืองขนาดเล็กตั้งโต๊ะแถลงข่าวประกาศสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี

เสียงร้องอ๋อ ก็ประสานขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกันจากทุกสาร ทิศโดยอัตโนมัติ

คะแนน 3 หมื่นจากทั่วประเทศได้เป็น ส.ส.ก็มีความจำเป็น ที่บรรดา ส.ส.เหล่านั้นจักต้องตอบแทนบุญคุณให้กับกระบวนการ ต่อท่ออำนาจเป็นธรรมดา

เมื่อ 11 ส.ส. 11 พรรคการเมืองเป็นเช่นนี้ 250 ส.ว.จะเป็น เช่นใด คำตอบคงจะตามมาในไม่ช้าแน่นอน

 

ภายในแต่ละปรากฏการณ์จึงไม่ควรมองแต่ในด้านของชัยชนะ ใน ด้านของความสำเร็จ เพราะว่าที่จะตามมายังเป็นด้านของความพ่ายแพ้ ยังเป็นด้านอันเป็นด้านลบ

ไม่ว่าจะเป็น 11 ส.ส. 11 พรรคการเมือง ไม่ว่าจะเป็น 250 ส.ว.

นี่คือลักษณะ 2 ด้านในทางการเมือง

      เพราะเมื่อมี “รายรับ” ปรากฏ จำเป็นต้องแจกแจง”รายจ่าย” ให้ประจักษ์ด้วย