สัญญาณทางการเมือง 1 ซึ่งไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาด คือสัญ ญาณอันเผยแสดงอย่างแจ้งชัดเป็นลำดับจากการเคลื่อนไหวของ พรรคอนาคตใหม่

บางคนอาจจะมองไปยังอีเว้นต์ที่เรียกชื่อว่า Future is Now ซึ่งประเดิมที่เชียงใหม่

บางคนอาจมองไปยังการนับคะแนน เขต 1 นครปฐม

เพราะในวันนั้นบรรดา Futurista ต่างออกมาแสดงบท บาทอย่างคึกคัก

แต่ที่เห็นเด่นชัดอย่างที่สุดกลับเป็นวันที่ 30 เมษายน

เพราะไม่เพียงแต่จะมีการสวมเสื้อขาวของว่าที่ ส.ส.หากแต่ยังมีการขับเคลื่อนของสาขาพรรคอนาคตใหม่หลายแห่ง

ไม่ว่าที่เชียงใหม่ ไม่ว่าที่บึงกาฬ

 

มีความเป็นไปได้ว่าภาพการเคลื่อนไหวของสาขาพรรคในขอบเขต 77 จังหวัดทั่วประเทศของพรรคอนาคตใหม่จะค่อยๆปรากฏและสำแดงโฉมออกมาเป็นระยะ

เป้าหมายสำคัญ คือ การขอคะแนนดิบจากแต่ละหน่วยเลือกตั้ง

นี่เป็นการย้ำข้อเรียกร้องเดิมของพรรคอนาคตใหม่

ความหนักแน่นจริงจังในการเคลื่อนไหวนี้มีมากยิ่งขึ้นจากปรากฎการณ์นับคะแนน 5 ครั้งที่เขต 1 นครปฐม แล้วไม่ตรงกันทุกครั้ง

ทำให้เกิดความแคลงคลาง กังขา ว่าหากนับ 350 เขตทั่วประเทศผลจะออกมาอย่างไร

นี่เป็นการพุ่งเป้าไปยัง”ประสิทธิภาพ”ของกกต.โดยตรง

การเคลื่อนไหวไปยังคะแนนดิบรายเขต คือ การรุกไปยังกระบวนการบริหารจัดการของกกต.ตั้งแต่ส่วนกลางมายังส่วน ภูมิภาค

สังคมกำลังรอคอย”คำตอบ”จาก”กกต.”จะว่าอย่างไร

 

อย่าลืมเป็นอันขาดว่า “ฐาน” กำลังของพรรคอนาคตใหม่มิได้รวม ศูนย์อยู่ส่วนกลางตามท่วงทำนองของพรรคการเมืองแบบเดิม แต่กระจายกำลังไปยังแต่ละจังหวัด

บทบาทของสาขาพรรคอนาคตใหม่จึงทรงความหมาย

ทรงความหมายทั้งในด้านการหาสมาชิก ระดมทุน ทรงความ หมายทั้งในการสำแดงพลังทางการเมือง

นี่คือรูปธรรมสำคัญของพรรคมวลชนอย่าง”อนาคตใหม่”