สงสัยหรือไม่ว่าเหตุใด “ปฏิกิริยา” อันมาจากพรรครวมพลังประชา ชาติไทย อันมาจากพรรคพลังประชารัฐ ต่อ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จึงรุนแรงแข็งกร้าว

ถึงกับผลักให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไปยืนอยู่แถวเดียวกันกับ นายทักษิณ ชินวัตร

ถึงกับระบุลงไปว่า เป็นคนใจคอคับแคบ ดีแต่พูด

น้ำเสียงและความรุนแรงแข็งกร้าวสรุปตามสำนวนไทยแท้แต่ โบราณออกมาได้ว่า ถึงระดับ “ผีไม่ยอมเผา เงาไม่ยอมเหยียบ”อย่างเด็ดขาด

คำประกาศที่ 1 ไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่ 1 พร้อมร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ จึงแทบไม่มีความหมาย

ที่เกรี้ยวกราดขนาดนี้เพราะ”นึกไม่ถึง”

 

ในฐานะที่เคยเป็นเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์มาก่อน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ย่อมนึกไม่ถึงว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะเลือกประกาศออกมาอย่างนี้

เพราะว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ฝากความหวังไว้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างเต็มเปี่ยม

ขณะเดียวกัน หลายคนในพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่า นายอุตตม สาวนายน ไม่ว่า นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ไม่ว่า นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ ไม่ว่า นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล

ล้วนมอง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อย่างเป็นมิตร

เห็นว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สัมพันธ์กับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อย่างลึกซึ้ง ยิ่งกว่านั้น 2 คนนี้ยังเคยร่วมหัวจมท้ายกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในที่ประชุมศอฉ.ระหว่างเดือนเมษายน พฤษภาคม 2553 อย่างแนบแน่น

ย่อมนึกไม่ถึงว่าเหตุใด นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จึงถึงกับไม่เอา ไม่ยอมรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

 

เมื่อทั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย ทั้งพรรคพลังประชารัฐ นึกไม่ถึงและไม่เข้าใจในการตัดสินใจของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชี่วะ จึง ย่อมจะไม่เข้าใจ

ไม่เข้าใจว่าทำไมจึงเหี้ยมหาญถึงเพียงนี้

ภายหลังจากไม่เข้าใจและนึกถึงความหลังครั้งอดีตก็บังเกิด ความเสียใจในการตัดสินใจของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะและพรรคประชาธิปัตย์

ความเสียใจ ความผิดหวังก็นำไปสู่ความโกรธแค้น