เผยแพร่ |
---|
ไม่ว่าท่าที พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไม่ว่าท่าที นายวิษณุ เครือ งาม ต่อการเคลื่อนไหวของ นายทักษิณ ชินวัตร น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในฮ่องกง สะท้อนลักษณะ “ผ่อนปรน”
ต่อคำถามที่ว่าเป็นการเคลื่อนไหวในลักษณะ”ครอบงำ”เหนือ พรรคการเมืองหรือไม่
“ต้องถามกกต.” เป็นเสียงจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
“การจะทำผิดกฎหมายต้องมีพฤติการณ์ที่ชัดเจน” เป็นเสียงจาก นายวิษณุ เครืองาม
ไม่ว่ามองจากด้าน นายทักษิณ ชินวัตร ไม่ว่ามองจากด้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่ว่ามองจากด้านบรรดาแกนนำพรรคเพื่อไทยที่เดินทางไปพบ
นี่ย่อมเป็นมิติใหม่ ท่าทีใหม่
หากเทียบกับบรรยากาศหลังรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 หากยิ่งเทียบกับบรรยากาศหลังรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557
จะไม่มีลักษณะผ่อนปรน ถ้อยทีถ้อยอาศัยอย่างเด็ดขาด
ล่าสุดเมื่อหลายเดือนก่อนกระทรวงการต่างประเทศก็เพิ่งทำหนังสือขอตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จากกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษ
และอาจจะเป็นท่าทีของอังกฤษจากคราวนั้นก็เป็นได้ก่อให้เกิดสถานการณ์ผ่อนปรน
เพราะท่าทีเข้มงวดเช่นนี้ไม่บังเกิดผลในทางเป็นจริง
ไม่ว่า นายทักษิณ ชินวัตร ไม่ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ล้วนสามารถเหาะเหินเดินหาว ไม่ว่าจะเป็นที่ลอนดอน ไม่ว่าจะเป็นที่ปารีส ไม่ว่าจะเป็นที่เบอร์ลิน
การนัดพบกับอดีตส.ส.และแกนนำพรรคเพื่อไทยไม่ว่าที่ฮ่องกง ไม่ว่าที่ปักกิ่ง ไม่ว่าที่สิงคโปร์ ได้กลายเป็นเรื่องธรรมดา
เหมือนกำลังเกิดขึ้นที่ฮ่องกงตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ความเป็นจริงที่ไม่ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไม่ว่า นายวิษณุ เครืองาม มิอาจปฏิเสธได้ก็คือ
ไทยไม่สามารถไปห้ามการเดินทางได้
ไม่ว่าจะเป็น นายทักษิณ ชินวัตร ไม่ว่าจะเป็น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เว้นแต่เมื่อคิดจะเดินทางเข้ามาในประเทศไทยเท่านั้นเองที่อยู่ในอำนาจของรัฐบาล
ความเป็นจริงเช่นนี้นับวันจะยิ่งกลายเป็นเรื่องปรกติ