เผยแพร่ |
---|
อาการหงุดหงิดล่าสุดที่ทำเนียบรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์ โอชา ได้รับความสนใจเป็นอย่างสูง
นี่คือ “สถานะ” ที่เปลี่ยนไป
อาการหงุดหงิดเช่นนี้มิได้เป็นครั้งแรกอย่างแน่อน แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าเกิดขึ้นเมื่อใดและในสถานการณ์เช่นไร
แรกๆผู้คนอาจจะงุนงง ไม่เข้าใจ
แรกๆผู้คนอาจจะรู้สึกและเห็นว่าเป็นเรื่องน่ารัก น่าเอ็นดู สะท้อนว่านายกรัฐมนตรีก็เป็นปุถุชนเหมือนกับคนธรรมดาโดยทั่วไป
แต่เมื่อเกิดขึ้นบ่อยครั้งและดำเนินไปอย่างซ้ำซากก็เริ่มมองเห็นว่าเป็นสภาพความเป็นจริงอันดำรงอยู่ในตัว
เรียกตามภาษาพระก็ต้องว่า เป็น”วาสนา”
การได้ประสบกับอาการหงุดหงิด ปะทุอารมณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นำไปสู่ความรู้สึกเปรียบเทียบอย่างเป็นรูปธรรมแตกไปตามกาละ ตามเทศะ
เป็นไปตามแต่ละ”สถานะ”ซึ่งแปรเปลี่ยนไปตามแต่ละ”กาละ”
ความละเอียดอ่อนเป็นอย่างยิ่งก็คือ อาการเช่นนี้มิได้เกิดขึ้นครั้งเดียว หากแต่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ตัวท่านเองก็ยอมรับว่า เป็นเรื่องไม่ดี
ตัวท่านเองก็ยอมรับว่า เคยมีผู้หลักผู้ใหญ่เตือนให้สงบระงับอารมณ์
สะท้อนว่า การแสดงอาการอย่างนี้ไม่เป็นผลดี
จากเดือนพฤษภาคม 2557 มายังเดือนพฤษภาคม 2561 กระทั่งมายังเดือนสิงหาคม ไม่เพียงแต่”สื่อมวลชน”เท่านั้นที่ได้ประสบ
หากประชาชนไทยก็รับรู้ในความหงุดหงิด ผันผวนทางอารมณ์ของ “นายกรัฐมนตรี”
เท่ากับยืนยันในเรื่องของ EQ อย่างเป็นรูปธรรม
ปะทุแห่งอารมณ์หงุดหงิดอันเกิดขึ้นในเดือนสิงหาคม 2561 อยู่ในห้วงเวลาอันแหลมคมเป็นอย่างสูง
เพราะเป็นเดือนท้ายสุดของการตัดสินใจทางการเมือง
นั่นก็คือ การตัดสินใจและจะประกาศให้สังคมได้รับทราบว่าจะยุติบทบาทหรือจะเดินหน้าต่อไปในทางการเมือง
นี่จึงเป็นห้วงเวลาอันทรงความหมายยิ่งต่อประเทศไทย