เผยแพร่ |
---|
ถามว่ารากฐานของสิ่งที่เรียกว่า “ไพรมารี โหวต”อันปรากฏในพรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 เกิดขึ้นและประดิษฐ์สร้างขึ้นโดยผู้ใด
จุดเริ่มต้นอย่างแท้จริงมาจาก มาตรา 45 ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560
และได้รับการเนรมิตขึ้นโดย “สนช.”
ความน่าสนใจอยู่ตรงที่ในขั้นคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หรือ กรธ.ยังไม่มีอะไรพิสดารมากนัก
แต่เมื่อถึงสนช.และถึงกรรมาธิการก็บรรเจิดเพริศแพร้ว
เป็นความบรรเจิดเพริศแพร้วโดยไม่เคยรับฟังเสียงท้วงไม่ว่าจะจากพรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคเพื่อไทย
แล้ว ณ เดือนสิงหาคม 2561 เป็นอย่างไร
ความจริง ปัญญาประดิษฐ์อันมาจากกรรมาธิการและในที่ประชุม สนช.ก็บรรเจิดเพริศแพร้วอยู่แล้ว
แต่เมื่อมีคำสั่งหัวหน้าคสช.ฉบับที่ 53/2560
ออกมาเสริมเติมให้กับประกาศคสช.ฉบับที่ 57/2557 และคำสั่งหัวหน้าคสช.ฉบับที่ 3/2558
ผลก็คือ พรป.ว่าด้วยพรรคการเมืองก็”เดี้ยง”
แรงสะเทือนแรกสุดจึงตกกระทบไปยังกระบวนการ”ไพรมารี โหวต”อย่างชนิดตรงตัว
ที่สำคัญก็เนื่องจากการเซ็ต ซีโร สมาชิกพรรค
ขณะเดียวกัน สาขาพรรค ตัวแทนพรรคประจำจังหวัด ก็ถูกยุบเลิกไปโดยปริยาย
เท่ากับทุกอย่างเริ่มต้นใหม่
เป็นการเริ่มต้นใหม่โดยพรป.ว่าด้วยพรรคการเมืองถูกมัดตรา สัง แม้ประกาศและบังคับใช้มาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2560 ก็ตาม
ตกลงใครเป็นคนทำให้เกิด “ปัญหา” เกิด “อุปสรรค”
ไม่ว่ามองไปทางซ้าย ไม่ว่ามองไปทางขวา ไม่ว่ามองจากด้านหน้า ไม่ว่ามองจากด้านหลัง ก็ไม่เห็นใครนอกจาก “คสช.”
เพราะไม่ว่าประกาศคสช.ฉบับที่ 57/2557 ก็คสช. เพราะไม่ว่าคำสั่งหัวหน้าคสช.ฉบับที่ 53/2560 ก็คสช. เป็นคสช.นั่นเองที่วางกับและติดกับ
กลายเป็นยักตื้นติดกึก ยักลึกติดกัก”ติดกับ”ของตัวเอง