อาการเบื่อต่อกระแส”พลังดูด”อันมาจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอ ชา หรือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือแม้กระทั่ง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา สามารถเข้าใจได้

ถามว่าแล้วเหตุใด ไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าพรรคเพื่อ

ไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคภูมิใจไทย จึงพูดถึงอย่างซ้ำซาก

แม้จะได้รับการปฏิเสธแข็งขัน

ไม่ว่าจะจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่าจะจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไม่ว่าจะจาก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา

1 เพราะว่า”พลังดูด”เกิดขึ้นและดำรงอยู่ในทางเป็นจริง

1 ซึ่งสำคัญเป็นการเคลื่อนไหวในแบบที่สำนวนจีนสรุปอย่าง รวบรัดว่า

เป็น”การหว่านเมล็ดพันธุ์”

 

คล้ายกับว่าการเปิดโปงในเรื่อง”พลังดูด”เป็นเรื่องซ้ำซาก น่าหน่าย กระทั่งบางคนไม่อยากได้ยิน ไม่ต้องการให้มีการพูด

แต่ก็ต้องยอมรับว่า “ดูด”จริง

ไม่ว่าจะเป็นที่จังหวัดเลย ไม่ว่าจะเป็นที่จังหวัดนครราชสีมา ไม่ว่าจะเป็นที่จังหวัดอุบลราชธานี

มีตัวมีตน เห็นกันจะ-จะ

ขณะเดียวกัน ที่พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคภูมิใจไทย รวมถึงพรรคเพื่อไทย ซึ่งล้วนตกเป็น”เป้า”หมาย ของ”พลังดูด”จำเป็นต้องออกมาวิพากษ์วิจารณ์ เปิดโปง

1 สะท้อนให้เห็นการเมืองในแบบ”ตกปลา”จากบ่อเพื่อน ทั้งแอบทำและโจ่งแจ้ง ไม่ปิดบัง

1 สำคัญเป็นอย่างยิ่งเป็นการชี้ให้เห็น

พลันที่ปี่กลองเลือกตั้งเริ่มประโคมอย่างอึกทึก เมื่อคนเหล่านั้นเรียงแถวกันไปตาม”พลังดูด” ชาวบ้านก็รู้เช่นเห็นชาติว่าเป็นอย่างไร

“เมล็ดพันธุ์”อันเพาะไว้ก็เริ่มแตกช่อ อรชร

 

หากยังอยู่บนถนนการเมือง ไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไม่ว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ล้วนต้องประสบ

คำ”ปฏิเสธ”เมื่ออดีตก็ปรากฏเป็น”จริง” ล้วนมาจากปากของเหล่า “ชายชาติทหาร”ทั้งสิ้น

การเก็บเกี่ยว”ดอกผล”ก็ย่อมจะตามมา