​​​E-DUANG : ความสำเร็จ ผลงาน ครม.สัญจร วัดค่า จากบทบาทของ”พลังดูด”

แม้ครม.สัญจรที่บุรีรัมย์ สุรินทร์ จะได้รับความสนใจเป็นอย่างสูง แต่หากเทียบกับครม.สัญจรที่อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ก็น่าจะตกเป็นรอง

ตอนบุรีรัมย์ สุรินทร์ มีข่าวหลุดมาก่อนแล้วว่าจะมีมวลชนกว่า 30,000 คนรอต้อนรับ

แต่ไม่มีใคร”เดา”ได้ว่าจะเป็นเช่นใด

ตรงกันข้าม เมื่อครม.สัญจรเปลี่ยนจากเชียงราย พะเยา มายังอุบลราชธานี อำนาจเจริญ ก็ปรากฏเป็นข่าวแทบจะทุกวันด้วยความคึกคัก

ทั้งพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งพรรคเพื่อไทย ล้วนร่วมด้วยช่วยกัน ในการประโคม

หากแต่ที่เน้น-เน้นกลับเป็นเรื่อง”พลังดูด”

 

อาจกล่าวได้ว่าตอนนี้ชื่อของ นายสุพล ฟองงาม โดดเด่นเหนือชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไปแล้วหลายกระเบียด

เพียงเพราะเขาออกมายืนยัน พร้อมจะไปต้อนรับ พล.อ.ประ ยุทธ์ จันทร์โอชา หากว่าทางจังหวัดเชิญ

แต่ตอนนี้ก็เริ่มไม่แน่ใจเสียแล้ว

ไม่ว่าจะมองจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่าจะมองจาก นายสุพล ฟองงาม เอง

ทำท่าว่าชื่อเสียงของ นายสุพล ฟองงาม จะดังยิ่งกว่า นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข จะดังยิ่งกว่า นายจำลอง ครุฑขุนทด หรือนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์

นั่นก็เพราะกระแสข่าวในเรื่อง”พลังดูด”โดยแท้

“พลังดูด” กำลังจะกลายเป็นบริบทแวดล้อมอยู่โดยรอบกับโครงการ “ครม.สัญจร”

เพราะนี่กลายเป็นส่วนหนึ่งของ”พรรคพลังดูด”

 

อย่าได้แปลกใจที่ไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ล้วนถูกลากดึงให้มาอยู่กับกระแส”พลังดูด”

สะท้อนว่า “กลุ่มสามมิตร”ทำงานได้ผล

สะท้อนว่า ทิศทางการประสานระหว่าง”กลุ่มสามมิตร”กับ

“พรรคพลังประชารัฐ” ในเรื่องการเจาะทะลายฐานกำแพงของพรรคเพื่อไทยได้ผล

พรรคพลังประชารัฐกลายเป็น”พรรคพลังดูด”โดยสมบูรณ์