คำว่า “ยุบพรรค” อันมาพร้อมกับแผน “สลายพรรค” เป้าหมายอยู่ที่พรรคเพื่อไทยอย่างเด่นชัด

การกดดันในเรื่อง”ยุบพรรค”ปรากฏมาแล้ว

พลันที่มีการ”สไกป์”จากร้านอีสานเขียว ใจกลางกรุงลอนดอน มายังสนามกอล์ฟแห่งหนึ่งในประเทศไทย

แล้วปรากฎภาพและเสียงผ่าน “คลิป”

ทางซีกประเทศไทยเป็นบรรดาอดีตส.ส.และแกนนำพรรคเพื่อไทยอย่างเด่นชัด

มีเสียงสำทับไปยัง”กกต.”ให้จัดการ เพราะว่าภาพและข่าวจากร้านอีสานเขียวเกิดขึ้นในห้วงแห่งการเดินเข้าบ้านเลขที่ 10 ดาวนิ่งสตรีท

เท่ากับปล่อยออกมาในลักษณะ”ประชัน”

 

แม้ว่ากกต.ไม่สามารถทำอะไรพรรคเพื่อไทยได้เพราะว่ามิได้อยู่ในห้วงแห่งการเลือกตั้ง พระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งยังไม่ประกาศและบังคับใช้

แต่แนวคิด”ยุบพรรค”ก็ยังดำรงอยู่ พร้อมกับความต้องการในการ “สลายพรรค”

มิเช่นนั้นคงไม่เกิดพลานุภาพแห่ง”พลังดูด”

ไม่ว่ารายของ นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข ไม่ว่ารายของ นายจำลอง ครุฑขุนทด ไม่ว่ารายของ นายสุพล ฟองงาม

ขณะเดียวกัน ก็ปล่อยกระแส”สลายพรรค”ออกมา

เพราะว่าเป้าหมายในการใช้”พลังดูด”แบบนี้ย่อมต้องการปั่นให้เกิดสถานการณ์และความสับสนภายในพรรคเพื่อไทย ท่ามกลางความไม่แน่นอนว่าจะมีใครเป็นหัวขบวน

ท่ามกลางความเงียบจากรักษาการหัวหน้าพรรค รักษาการเลขาธิการพรรค

นี่คือ จุดอ่อนที่นำไปสู่กระบวนการ”เสี้ยม”

 

สถานการณ์แบบนี้จะอาศัยเพียง”คำเรียกร้องของเลขาธิการ”เท่านั้นน่าจะไม่เพียงพอเสียแล้ว

คำถามอยู่ที่ว่ามีเสียง”ขานรับ”หนักแน่นเพียงใด

อาศัยใบหน้าชื่นบานระหว่าง”ฟุตบอลโลก”ของ นายทักษิณ ชินวัตร กับ “แม่น้องไปบ์”ได้หรือไม่ ยังเป็น”ปริศนา”อันซ่อนเร้นอย่างยิ่ง

จึงมีข้อเรียกร้องไปยัง”เลขาธิการ”ดังกระหึ่มในสถานการณ์อันมากด้วยความเสี่ยงเป็นอย่างสูง