เผยแพร่ |
---|
ทั้งๆที่กระบวนการ“ดูด”ได้รับการผลักดันมาจาก “คสช.” โดยแปร”ทำเนียบรัฐบาล” เป็นกองบัญชาการใหญ่
ริเริ่มและผลักดันโดย “นักการตลาด” ระดับเอ้
อาศัย “มือทำงาน” อันเปี่ยมด้วยประสบการณ์และความจัด เจนสูงยิ่งในทางการเมือง
พรั่งพร้อมด้วยฐานรองรับระดับ 2 อำนาจ 1 คือ อำนาจซึ่งได้จาก “กลไกรัฐ” ขณะเดียวกัน 1 อำนาจอันมาจาก “เงินทุน”จำนวนมหาศาล
เพียงขยับก็หยิบชิ้นปลามันจาก”จังหวัดเลย”
จากนั้นก็แตะไปยัง “นครราชสีมา” จากนั้นก็แตะไปยัง”อุบล ราชธานี”
แล้วเหตุใดจึงบังเกิดสภาวะละล้าละลังขึ้น
หากฟังจากลูกแหล่งตีนมือของ”พรรคพลังประชารัฐ”อ้างว่าที่ยังไม่มีอะไรคืบหน้าเพราะรอให้สถานการณ์ช่วยเด็กๆและโค้ชจากทีมหมูป่าออกจากถ้ำหลวงไปเสียก่อน
จากนั้นก็จะ”เปิดตัว”อย่าง “อลังการ”
กระนั้น ก็ต้องยอมรับความเป็นจริงว่ากระแสในทางสังคมไม่ HAPPY กับความอึกทึกครึกโครมของ “การดูด”มากนัก
ยิ่งโยงสายยาวไปยัง “คสช.”และ”ทำเนียบรัฐบาล”ยิ่งหงุดหงิด
หงุดหงิดเพราะว่า ตลอด 4 ปีกว่าภายหลังรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 “คสช.”ด้านหนึ่ง โจมตี”นักการเมือง”อย่าง สาดเสียเทเสีย
โดยเฉพาะ “นักการเมือง”จาก”พรรคเพื่อไทย”
ขณะเดียวกัน ด้านหนึ่ง ก็คุยอย่างต่อเนื่องว่าจะ”ปฏิรูป”ก่อน
“การเลือกตั้ง”
จึงเกิดความสงสัยว่า “ดูด”นี่หรือคือ”ปฏิรูป”
จึงเกิดความสงสัยว่า หากจะ”ปฏิรูป”ทำไมต้องเอาคนมาจาก
“พรรคเพื่อไทย”
ความไม่พอใจต่อกระแส”การดูด”คุกรุ่นและกลายเป็นความรู้สึกใน ลักษณะ “ร่วม” ขึ้นในทางสังคม
แม้กระทั่ง “มวลมหาประชาชน” ก็หงุดหงิด
ยิ่งบรรดา “พันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย” ยิ่งไม่เข้าใจในการตัดสินใจของ “คสช.”และ”ทำเนียบรัฐบาล”
ลักษณะ”ร่วม”นี่แหละคือ”กระแส”สำคัญที่ก่อตัวขึ้น