ภาพการเข้าร่วมแข่งขันวิ่งเทรลของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อันปรากฏขึ้นบนความลาดชันในพื้นที่ของเบตง ก่อให้เกิดคำถามตาม มามากมาย

ทำไม นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จึงต้องเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมอันยากลำบากเช่นนั้น

ไม่เพียงเข้าร่วมคนเดียว หากแต่มี”พันธมิตร”จำนวนหนึ่ง

ยิ่งเห็นภาพความทรมานจากการที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ต้องนำเท้าอันผ่านการเคี่ยวกรำอย่างยากลำบากวางแช่กับน้ำแข็งในถัง ยิ่งประจักษ์ในแต่ละก้าวย่างที่จะต้องผ่าน

มีความจำเป็นอะไรที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ต้องเข้าร่วมการแข่งขันในแบบวิบากเช่นนี้ ไม่ว่าบนเขาสูงทะลุฟ้าแห่งเทือกเขาแอลป์แห่งภาคพื้นยุโรป ไม่ว่าจะเป็นที่เบตงแห่งประเทศไทย

คำตอบอาจจะเป็นความชมชอบในทางส่วนตัวของ นายธนาธร

จึงรุ่งเรืองกิจ เอง ที่ทำเช่นนี้จนกลายเป็น”ฮ้อบบี้”อย่างหนึ่งตั้งแต่เป็นนักธุรกิจกระทั่งเป็นนักการเมือง

กระนั้น คำตอบที่ลึกซึ้งยิ่งกว่านั้นยังเป็นภาพสะท้อนในทาง ความคิดของคนๆหนึ่งที่ต้องการพิสูจน์ความแข็งแกร่งของตนเอง

 

การวิ่งอย่างที่เห็นในเขาสูงแห่งเบตง การไต่ไปบนความชันแห่งเทือก เขาแอลป์ ด้านหนึ่ง สะท้อนให้เห็นความยากลำบาก แต่อีกด้านหนึ่ง ก็สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามที่จะเอาชนะความยากลำบาก

หากมองจากกระบวนการวิ่งเทรลไปยังเส้นทางทางการเมืองของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จึงกลายเป็นคำอธิบาย

ถามว่าตั้งแต่เข้าสู่การเมืองผ่านพรรคอนาคตใหม่ในการเลือก ตั้งอย่างเป็นการทั่วไปเมื่อเดือนมีนาคม 2562 เส้นทางของ นายธนา ธร จึงรุ่งเรืองกิจ ราบรื่นหรือมากด้วยอุปสรรค

เหมือนกับราบรื่น เหมือนกับได้ชัยชนะจากการได้รับเลือกเข้ามา แต่ก็มากด้วยปัญหามากมายกระทั่งถูกยุบพรรค ตัดสิทธิ

 

การเมืองจากพรรคอนาคตใหม่กระทั่งมาถึงคณะก้าวหน้าของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จึงไม่ต่างไปจากกระบวนการวิ่งเทรล หรือการพายเรือไปในท้องทะเลอันไพศาลอุปสรรคมีแต่ก็ยังมุ่งหน้าไป

เหมือนที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และคณะก้าวหน้าเดินฝ่าไปในความยากลำบากในการต่อกรกับ”รัฐราชการรวมศูนย์”

หนักหนาสาหัสยิ่งกว่าการวิ่งเทรล 100 กิโลเมตรยิ่งนัก