E-DUANG : ถามจาก วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ถามตรงไปยัง อัศวิน ขวัญเมือง

การที่กรมโรงงาน กระทรวงอุตสาหกรรม ออกโรงต่อโรงกำจัดขยะกทม.ที่ซอยอ่อนนุช ได้กลายเป็นคำถามแหลมคมและร้อนแรงมากยิ่งขึ้นเป็นลำดับในทางการเมือง

คำถามนั้นไม่เพียงแต่พุ่งตรงไปยัง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง หากแต่ยังเน้นให้เห็นบทบาทของ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร

ต้องยอมรับว่าสโลแกนของเบอร์ 1 คือ พุ่งชนกับปัญหา

ต้องยอมรับว่าทันทีที่ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ประกาศตัวลง สมัครรับเลือกตั้งก็เคลื่อนไหวลงพื้นที่พร้อมกับผู้สมัคร ส.ก.ในนาม พรรคก้าวไกลอย่างต่อเนื่อง

และจุดหนึ่งที่ได้รับการเน้นอย่างหนักแน่นและจริงจังก็คือ ผล เสียอันเนื่องจากการดำรงอยู่ของโรงงานกำจัดขยะที่อ่อนนุช ส่งแรง สะเทือนต่อชาวบ้านเรือนแสนโดยรอบ

ความเสียหายนี้อาจเป็นความต่อเนื่องจากผู้ว่าฯกทม.ในอดีต

แต่ก็อยู่ในความรับผิดชอบโดยตรงของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ในห้วง 5 ปีที่แหวกเมฆมาด้วยมาตรา 44 ของคสช.

ทำไมเรื่องนี้จึงต้องเป็นผลงานของ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร

 

ความแหลมคมของปัญหาอันเนื่องจากโรงงานกำจัดขยะที่อ่อนนุชยังบานปลายกลายเป็นคำถามไปยังจุดสำคัญที่ นายวิโรจน์ ลักขณา อดิศร เน้นอย่างจริงจังตังแต่ก้าวแรกของการลงสมัคร

นั่นก็คือ เขามิได้เน้นไปยังการเป็น”นักบริหาร” หากแต่เน้นไปยัง “เจตจำนง”อันแน่วแน่ของผู้ว่าฯกทม.

นั่นก็คือ เจตจำนงอันแน่วแน่ที่จะทำเพื่อ”คนกรุงเทพฯ”

ไม่ใช่เมื่อถามถึงปัญหาอันเกี่ยวกับรถไฟฟ้าสายสีเขียวก็ไม่มีคำตอบที่แจ่มชัด นอกจากประโยคที่ว่า”ต้องรอการตัดสินใจของผู้ ใหญ่”โดยไม่สนใจว่าชาวบ้านเขาเดือดร้อนกันอย่างไร

พลันที่กรณีโรงงานกำจัดขยะมาถึงจุดต้องยุติชั่วคราวจึงเท่ากับ

เป็นผลงาน นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ตั้งแต่ยังไม่ได้เป็น”ผู้ว่าฯ”

 

สถานการณ์ของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง จึงเริ่มถูกตั้งคำถามมาก ยิ่งขึ้นในทุกเวทีที่พบปะประชาชน เป็นคำถามถึงผลงาน เป็นคำถาม ถึงเจตจำนงของการไปต่อในตำแหน่ง”ผู้ว่าฯกทม.”

ไม่ว่าจะเรื่อง”รถไฟฟ้า” ไม่ว่าจะเรื่อง”โรงงานกำจัดขยะ”

ทุกเวทีดีเบตในทางการเมืองจึงกลายเป็นเวทีอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง โดยปริยาย

นี่คือจุดเปลี่ยนอย่างมีนัยสำคัญของการเมืองในกทม.