เผยแพร่ |
---|
ประกาศอันชวนให้เกิดอาการกระบอกตาร้อนผ่าวจากหลายพรรคและกลุ่มการเมืองโดยอัตโนมัติ นั่นก็คือ ประกาศการจัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่พรรคการเมืองล่าสุดจากกกต.
ปรากฏว่า พรรคที่ได้รับการจัดสรรเป็นอันดับ 1 ด้วยจำนวนสูงถึง 30,145,874.86 ล้านบาท คือพรรคก้าวไกล
ไม่น่าเชื่อ แต่ก็จำเป็นต้องเชื่อเพราะเป็นประกาศจาก”กกต.”
เป็นการจัดสรรให้แก่พรรคการเมืองที่จดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมายจำนวน 64 พรรคการเมือง
พรรคประชาธิปัตย์ ได้ 13,133,331.30 บาท
พรรคภูมิใจไทย ได้ 9,475,722.29 บาท พรรคกล้า ได้ 6,559,587.89 พรรคพลังประชารัฐได้ 5,706,040.41 บาท
นอกเหนือไปจากพรรคกล้าที่เพิ่งก่อตั้งแล้วก็ต้องยอมรับว่าพรรคก้าวไกลยังสามารถรักษาสถานะที่เคยได้รับจากการบริจาค
ผ่านระบบการเสียภาษี
ความหมายก็คือ พรรคกล้าได้เงินจัดสรรเหนือกว่าพรรคประชาธิปัตย์ เหนือกว่าพรรคพลังประชารัฐ เหนือพรรคภูมิใจไทย
หากมองพรรคประชาธิปัตย์อย่างสัมพันธ์กับพรรคกล้า เพราะหัวหน้าพรรคกล้า นายกรณ์ จาติกวณิช ก็แยกตัวออกมาจากพรรคประชาธิปัตย์
เมื่อผนวกรวม 13 ล้านเศษของพรรคประชาธิปัตย์เข้ากับ 6 ล้านเศษของพรรคกล้าก็เท่ากับ 19 ล้านบาทเศษ
ก็ยังเป็นรองต่อจำนวน 30 ล้านบาทเศษของพรรคก้าวไกล
ทั้งๆที่พรรคก้าวไกลคือความต่อเนื่องจากพรรคอนาคตใหม่ ทั้งๆที่พรรคอนาคตใหม่และพรรคกล้าตกอยู่ภายใต้มรสุมโลหิตแห่ง การใส่ร้ายโจมตีอย่างแสนสาหัส
กระนั้น เงินบริจาคจากประชาชนผ่านระบบภาษีก็อันดับ 1
และได้รับการตอกย้ำซำเสริมเข้ามาอีกจากจำนวนการจัดสรรโดยกกต.มากเป็นอันดับ 1 ใน 60 กว่าพรรคการเมือง
ไม่ว่าจำนวนเงินที่พรรคก้าวไกลได้มาจากการบริจาคผ่านระบบการเสียภาษี ไม่ว่าจำนวนเงินที่พรรคก้าวไกลได้มาจากการจัดสรรตามระเบียบของกกต.
เป็นกระบวนการ”ภายนอก”อันสะท้อนปัจจัย”ภายใน”ประกอบ
เท่ากับยืนยันและเป็นการพิสูจน์ทราบอย่างเป็นรูปธรรมของสายสัมพันธ์ระหว่างพรรคก้าวไกลกับมวลชนที่ศรัทธาแนบแน่น
ดำรงอยู่บนพื้นฐานแห่งการพัฒนาไปสู่”พรรคมวลชน”เด่นชัด