ปรากฎการณ์ #โทนี่รากแก่น สะท้อนสภาวะอันแหลมคมสุดในทาง ความคิดและจะส่งผลสะเทือนไปสู่พรมแดนทางการเมืองได้อย่างไม่ อาจหลีกเลี่ยงได้พ้น

เพราะว่า #โทนี่รากแก่นมิได้มีมูลเค้ามาจากปากของ โทนี่ ราก แก่น เอง ตรงกันข้าม สัมพันธ์กับ โทนี่ วู้ดซั่ม

จากการที่#โทนี่รากแก่นติดเทรนด์ทวิตเตอร์อย่างรวดเร็ว และทะยานเข้าสู่อันดับ 1 ใน 10 และกลายเป็นอันดับ 1 อย่างต่อเนื่องและยาวนาน

ตัวของ โทนี่ รากแก่น ก็ต้องย้อนกลับไปมองอย่างสังเคราะห์ ตัวของ โทนี่ วู้ดซั่ม ก็ต้องย้อนกลับไปมองอย่างวิเคราะห์ จำแนกแยกแยะอย่างเข็มงวดและจริงจัง

นี่ย่อมเป็นผลสะเทือนมาจากปฏิบัติการปักธงในทาง”ความคิด” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คำถามต่อ”ความเป็นกลาง”

ถามว่ายังสามารถดำรงอยู่และมีความเป็นไปได้หรือไม่

ยิ่งกระแสอันเนื่องแต่ #โทนี่รากแก่น ขยายตัวเติบใหญ่อย่างอึกทึกครึกโครมมากเพียงใด บทสรุปจะตามมาอย่างรวดเร็ว

 

ถามว่าเป้าหมายจาก#โทนี่รากแก่นจะอยู่ที่ตัวของ โทนี่ รากแก่น เท่านั้นหรือ ผลสะเทือนที่เห็นอย่างอึกทึกครึกโครมตอบได้เลยว่าเป้าหมายเป็นมากกว่านั้น

มิได้อยู่ที่ว่า โทนี่ รากแก่น เป็นกลางหรือไม่ เป็นขนมหลากสีหรือไม่ หากแต่อยู่ที่ว่าผลสะเทือนความคิดนี้ดำรงอยู่อย่างไร

หากสัมผัสจากสภาวะแห่งความตื่นตัวของบรรดาดาราและนัก แสดงรุ่นใหม่ก็สามารถตอบแทน โทนี่ รากแก่น และคนประเภทเดียว กับ โทนี่ รากแก่น ได้เลยว่า

เวลาที่ โทนี่ รากแก่นและคนประเภท โทนี่ รากแก่น เคยมีและยึดกุมอยู่ได้เหลือน้อยลงเป็นลำดับ

กระทั่ง อาจตกอยู่ในสถานะที่จะต้อง”ตัดสินใจ”

 

ความหมายมิได้อยู่ที่ว่าจะต้องตัดสินใจเลือกที่จะยืนหยัดอยู่กับสิ่งที่ โทนี่ รากแก่น เรียกว่า “อยู่กับธรรมชาติ”

ตรงกันข้าม จะต้องอยู่กับ “การเลือก”ที่แน่นอน

เพราะในความหมายของการเลือกหรือไม่เลือกนั้นในที่สุดก็หนีไม่พ้นไปจากการต้องเลือกอยู่นั่นเอง

ในการไม่เลือกก็คือ”การเลือก”แบบหนึ่ง