| เผยแพร่ |
|---|
ท่ามกลางการปรากฏขึ้นของ”แฟล็ชม็อบ”อย่างคึกคักอันเป็นผลสะเทือนจาก”เยาวชนปลดแอก” มีเสียงร้องเตือนไปยังรัฐบาล ไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ให้ดำเนินกลยุทธ์อย่างที่เรียกว่า “ถอนฟืนใต้กระทะ”
กลยุทธ์นี้เป็นอุบายในการบั่นทอนพลังของข้าศึกทีละส่วน จนทำลายข้าศึกเป็นส่วนใหญ่หรือทั้งหมดได้
ท่าน บุญศักดิ์ แสงระวี แปลรายละเอียดจากคัมภีร์เดิมของจีนระบุว่า คำนี้ มาจากหนังสือเรื่อง”ไหวหนานจื่อ”ความว่า “เทน้ำร้อนลงในน้ำเดือด มิอาจหยุดเดือด จักต้องรู้ลักษณะของมัน ทอนไฟจึงหยุด”
ในฎีกาประท้วงราชวงศ์เหลียง สมัยเว่ยเหนือก็ว่า “ถอนฟืนจึงหยุดเดือด ตัดหญ้าพึงถอนราก”
ประเด็นอยู่ที่ว่าจะถอน”ฟืน”ก็ต้องเข้าใจ”ฟืน”
ประเด็นอยู่ที่ว่ารัฐบาลและ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้าใจไฟ เข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ว่าเป็นอย่างไร
หากดูจากความเห็นอันออกมาไม่ว่าจะจากทำเนียบรัฐบาล ไม่ว่าจะจากพรรคพลังประชารัฐ มิได้มองเห็นว่าปัญหามีรากฐานมาจากรัฐบาลหากแต่มาจากความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนของ”เยาวชน”
ที่เข้าใจคลาดเคลื่อนเพราะว่า”เยาวชนปลดแอก”รับรู้ข้อมูลมาอย่างผิดๆจาก “ผู้ใหญ่”บางคนและบางพรรคการเมือง
กล่าวโดยสรุปก็คือ มองว่า”เยาวชนปลดแอก”ถูก”หลอก”
เป็นการหลอกอย่างเป็นระบบอย่างเป็นกระบวนจากผู้ใหญ่บาง คน จากพรรคการเมืองบางพรรค จากคณะและกลุ่มการเมืองบางกลุ่มซึ่งเป็นปรปักษ์กับรัฐบาล
เมื่อมองปัญหาว่าเป็นเช่นนี้เสียแล้วการพยายามถอนฟืนออกจากเตาหรือจากกระทะจึงสวนทางกับข้อเรียกร้องของเยาวชนปลดแอก
นั่นก็คือ แทนที่จะ”หยุดคุกคามประชาชน” กลับเป็นการคุกคาม
เพียง 1 วันหลังการชุมนุมของเยาวชนที่ประตูท่าแพ เชียงใหม่ พวกเขาก็ถูก”หมายเรียก”พร้อมกับ”แจ้งข้อหา”
ยิ่งกว่านั้น บางแห่งยังถูกเจ้าหน้าที่บุกเข้าไปถึงบ้าน
ภาพการข่มขู่อย่างที่เห็นผ่านคลิปจากบุรีรัมย์เกิดขึ้นไม่ว่าที่แพร่ ไม่ว่าที่สมุทรปราการ ไม่ว่าที่ชลบุรี กลายเป็นปรากฏการณ์ทั่วไป
นี่มิใช่การถอนฟืน หากแต่เป็นการสาดน้ำมันเข้าไปในกองไฟ
