ทำไมการปรากฏขึ้นของกลุ่ม CARE จึงสร้างผลสะเทือนอย่างสูงในทางการเมือง

เพราะเป็นการปรากฏขึ้นอย่างสอดรับกับ”สถานการณ์”

นั่นก็คือ สถานการณ์อันสะท้อนสภาวะอับตันในทางความคิดและในทางการเมือง

รัฐประหารไปแล้ว 2 หน เมื่อเดือนกันยายน 2549 และเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 แทนที่จะหลุดพ้นไปจากความวิปริตแปร ปรวนกลับยิ่งอาการหนัก

แม้จะมีความพยายามเสนอทางออกผ่านพรรคอนาคตใหม่และมีเสียงขานรับจากสังคมอย่างเป็นที่น่าพอใจ แต่กลไกแห่งอำ นาจที่มีอยู่ก็บดขยี้และทำลายอย่างเหี้ยมโหด

เหมือนที่เคยทำกับพรรคไทยรักไทย เหมือนที่เคยทำกับพรรค พลังประชาชน

จึงได้จุด “ประกาย”แห่ง”ความคิด”ขึ้นมา

 

ประกายแห่งความคิดนี้มิได้ดำรงอยู่เพียงการพัฒนาและต่อเนื่อง ผ่านคณะก้าวหน้าอันประสานและแนบแน่นอยู่กับบทบาทพรรคก้าวไกลอย่างสร้างสรรค์

หากแต่ก่อให้กลุ่มคนที่เคยมีบทบาทอยู่ในพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน พรรคเพื่อไทย ได้พลิกฟื้นบทบาทของตน

คนเหล่านี้มิได้มีแต่ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล อันมีความจัดเจนตั้งแต่พรรคเอกภาพของ นายอุทัย พิมพ์ใจชน นักสู้ เพื่อประชาธิปไตยเท่านั้น

หากแต่ยังมี นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริยเดช นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ ลี นายภูมิธรรม เวชยชัย รวมอยู่ด้วยอย่างมีนัยสำคัญ

3 คนหลังไม่เพียงแต่สะสมบทเรียนจากยุคเดือนตุลาคม 2516 ต่อเนื่องมายังยุคเดือนตุลาคม 2519 หากแต่ยังเป็นกำลังสำคัญอยู่ในพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน พรรคเพื่อไทย

จังหวะก้าวของ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริยเดช นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี นายภูมิธรรม เวชย ชัย จึงได้รับความสนใจ

เป็นความสนใจพร้อมกับคำถามว่าพวกเขาจะมีอะไร”ใหม่” เสนอให้กับสังคมไทย

 

ความใหม่ในที่นี้ไม่เพียงแต่จะเป็นความใหม่อันดำรงอยู่ผ่านคณะ ก้าวหน้า พรรคก้าวไกล อันเป็นผลผลิตแห่ง”อนาคตใหม่”

หากแต่กลุ่ม CARE จะต้องสร้างปรากฎการณ์ใหม่

เหนือไปกว่าพรรคอนาคตใหม่ เหนือไปกว่าพรรคไทยรักไทยอันโดดเด่นในอดีต

นี่คือโจทย์ นี่คือปัญหาในความรับผิดชอบของกลุ่ม CARE

 

---

พิเศษ! สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์, ศิลปวัฒนธรรม และเทคโนโลยีชาวบ้าน ลดราคาทันที 40% ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิ.ย.63 เท่านั้น! คลิกดูรายละเอียดที่นี่