ปัญหาความขัดแย้งอันกำลังเกิดขึ้นและขยายตัวขึ้นภายในพรรค พลังประชารัฐ มิได้เป็นปัญหาอันอยู่นอกเหนือความคาดหมายเหตุใดจึงมีการเสนอคำถาม”เบื่อมั๊ย”ขึ้นมา

​เหตุใดต่อจากคำถาม”เบื่อมั๊ย”ปรากฏขึ้นก็มีการขับเคลื่อนผ่าน”กลุ่ม ส.ส.”พรรคพลังประชารัฐเรียกร้องความปรองดอง

​เป็นความปรองใต้ร่มธง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

​โดยไม่มีคำถามแม้แต่คำเดียวว่า ปัญหาและการเคลื่อนไหวเพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงภายในพรรคพลังประชารัฐนั้นมีชื่อใครบ้างเข้ามาเป็นตัวละคร

​และผลสะเทือนจากการปรากฏชื่อคนๆนั้นจะมีแรงสะเทือนส่งไปยังสถานะและเกียรติภูมิทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างไร

​สถานะของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็เหมือนกับสถานะ ของ จอมพลถนอม กิตติขจร

​ก่อนตัดสินใจทำรัฐประหารเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2514

 

การก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐเพื่อการสืบทอดอำนาจของคสช.ก็อีหรอบเดียวกันกับการก่อตั้งพรรคสหประชาไทยของจอมพลถนอม กิตติขจร เพื่อการสืบทอดอำนาจในการเลือกตั้งเมื่อปี 2512

​จะต่างก็เพียงแต่บนพื้นฐานของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2511 กับรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 เท่านั้น

​แต่กระบวนการระดมคน กระบวนการยกร่างรัฐธรรมนูญดำเนินไปในท่วงทำนองอย่างที่มีการสรุป “รัฐธรรมนูญฉบับนี้ DESIGN มาเพื่อพวกเรา”ครบถ้วน

​ผ่านการเลือกตั้งเดือนกุมภาพันธ์ 2512 ทุกอย่างเสร็จสมอา รมณ์หมาย จอมพลถนอม กิตติขจร ได้เป็นนายกรัฐมนตรี

​เพียงการบริหารราชการแผ่นดินผ่านไป 1 ปีปัญหาอันเนื่อง จาก ส.ส.พรรคสหประชาไทยเริ่มปรากฏ เพราะ จอมพลถนอม กิตติขจร ไม่สามารถคุม ส.ส.ได้ตามความปรารถนา

​เป็นปัญหาเหมือนกับที่กำลังเกิดขึ้นและดำรงอยู่ภายในพรรคพลังประชารัฐครบถ้วนทุกประการ ไม่มีผิดเพี้ยน

 

ไม่จำเป็นต้องให้คนที่ผ่านการเมืองมาระดับ นายชวน หลีกภัย หรือ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน หรอกหากมองเข้าไปในรัฐบาลมอง เข้าไปในพรรคพลังประชารัฐ

​ระดับ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ก็มองออก ระดับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ก็มองออก

​ยิ่งระดับ นายเนวิน ชิดชอบ ยิ่งมองทะลุ

​เพียงแต่รอดูว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะตัดสินใจแตกต่างออกไปจาก จอมพลถนอม กิตติขจร หรือไม่