เงาสะท้อนอันสำแดงผ่านปฏิบัติการ # ตามหาความจริง เมื่อประสานเข้ากับบทบาทของ UDD News และ Peace TV ได้ก่อให้เกิดปรากฏการณ์ใหม่ในทางการเมือง

แต่ละปรากฏการณ์จึงเท่ากับ”สะพานเชื่อม”คน 2 ยุค 2 สมัยได้เผยแสดงออกมาอย่างมี”กัมมันตะ”

เห็นได้จากบทสรุปของ นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ

ในการเคลื่อนไหวเมื่อเดือนเมษายน พฤษภาคม 2553 นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ อายุ 35 ปีถือว่าอายุน้อยเป็นอย่างมาก แต่ในเดือนพฤษภาคม 2563 คือการแสดงตัวของคนอายุ 17-18 ปี

หากไม่มีคนอย่าง นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อและคนเสื้อแดงเมื่อ 10 ปีก่อน ก็คงไม่มีสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทยในเดือนพฤษภาคมในปัจจุบัน

เท่ากับยืนยันถึงบทบาทในฐานะ”กองหน้า”และ”สะพานเชื่อม” ทางความคิดและทางการเมืองอย่างสำคัญ

 

การเคลื่อนไหวของ”คนเสื้อแดง”เมือ่เดือนเมษายน พฤษภาคม 2553 ได้เปิดตัว”คนรากหญ้า” ณ ใจกลางมหานครกรุงเทพฯอย่าง อึกทึกครึกโครม

พวกเขาไม่เพียงอยู่บนถนนราชดำเนินเหมือนที่เคยเห็นเมื่อเดือนตุลาคม 2516 และเดือนพฤษภาคม 2535

หากแต่ยังรุกเข้าไปยังราชประสงค์อันเป็นแหล่งสินค้าหรู

แม้ว่าเขาจะถูกล้อมปราบอย่างโหดเหี้ยมและทารุณ แต่ก็มิได้หมายความว่าจะสามารถบดขยี้และทำลายล้างจนแหลกละเอียด

10 ปีผ่านไปความคิดที่เรียกร้อง “ประชาธิปไตย” ความต้องการเห็นคน”เท่าเทียมกัน”ก็ยังดังก้องกังวาน

โดยมี”คนรุ่นใหม่”เข้ามารับไม้อย่างมีลักษณะ”กัมมันตะ”

กัมมันตะนั้นสัมผัสได้จากปฎิบัติการ # ตามหาความจริงและความคึกคักของ”คนเสื้อแดง”

 

ยังมีความพยายามที่จะบดขยี้และทำลายความชอบธรรมของการ เคลื่อนไหวในเดือนเมษายน พฤษภาคม 2553 อย่างเต็มเรี่ยวแรงและความสามารถที่มีอยู่

ไม่ว่าจะเป็นความพยายาม”เสี้ยม”เข้าไปในท่ามกลางมือที่ประสานเข้าหากันของคนต่างรุ่น ต่างวัย

ทำให้เห็นเสมือนว่าเป็นการช่วงชิงการนำ ช่วงชิงบทบาท

แต่การเชื่อมประสานระหว่างคนต่างรุ่น ต่างวัยก็ยังดำเนินไปอย่างคึกคัก เปี่ยมด้วยความหวัง สร้างความหวาดผวาให้บังเกิดอย่างเห็นได้ชัด

นี่คือบทบาทกองหน้าและสะพานเชื่อมของ”คนเสื้อแดง”