E-DUANG : เหนือธรณี ประตู โลกใหม่ บนซาก หักพัง ของโลกเก่า

A general view of an empty arrivals terminal, following the coronavirus outbreak, at Suvarnabhumi Airport in Bangkok, Thailand March 12, 2020. REUTERS/Soe Zeya Tun

ไม่ว่าภัยพิบัติจากการคุกคามของ “ไวรัส” ไม่ว่าความร้ายแรงของ “ไฟป่า” ไม่ว่าการขยายตัวของ “ภัยแล้ง”

เหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องของ”ธรรมชาติ” เป็นเรื่องของ”ฟ้าดิน”

แต่ธรรมชาติและฟ้าดินเหล่านี้เมื่อมากันครบทั้ง ดิน น้ำ ลม ไฟ จึงนำไปสู่ภาวะพายุอันสมบูรณ์แบบ

พายุทั้งในทาง “ความคิด” พายุทั้งในทาง “การเมือง”

ผลสะเทือนไม่เพียงแต่ทำให้บทบาทของอำนาจนิติบัญญัติสิ้นไปอย่างแทบจะสิ้นเชิง หากอำนาจของอำนาจบริหารก็คลอน แคลน

ระเบียบวัฒนธรรมประเพณีถูกตรวจสอบ ระบบคิดตกอยู่ใน กระแสแห่งการวิพากษ์วิจารณ์

ไม่มีอะไรที่จะตั้งมั่นอยู่ได้โดยไม่หวั่นไหว รวนเร

 

อย่าว่าแต่ประเพณีการแข่งขันกีฬาระดับโลกอย่าง”โอลิมปิก”จะถูกเลื่อนออกไป อย่าว่าแต่ประเพณีตรุษจีน ตรุษสงกรานต์ อันฝังอยู่ยาวนานนับพันปีจะถูกเลื่อนออกไป

แม้กระทั่งความเชื่อ ความศรัทธาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์แทบจะทุก ศาสนาก็ถูกท้าทาย

เหมือนกับการตั้งคำถามต่อ “พระโพธิสัตว์”

ภัยจากธรรมชาติ ภัยจากฟ้าดิน แทนที่จะอยู่เฉพาะจุดกลับระบาด แพร่ลาม เหมือนไฟไหม้ป่า จากจีนไปยังอิตาลี จากอิตาลี ไปยังสหราชอาณาจักร

ทดสอบความศักดิ์สิทธิ์ไม่เฉพาะเง็กเซียนฮ่องเต้ หากแม้กระทั่งพระอิศวร หรือเทพซีอุส เอทีนา ปู่สังกะสา ย่าสังกะสีครบครัน

เป็นการทดสอบบนฐานที่ไม่แน่นอนของ”อนาคต”ตามมา

 

ไม่เพียงแต่สังคมประเทศไทยจะเข้ามายังจุดตัด หักเลี้ยวอย่างมีนัยสำคัญ หากแม้กระทั่งโลกทั้งโลกก็เหยียบไปยังสถานะที่จำต้อง เปลี่ยนแปลง

เป็นภาวะฉุกเฉินอันกวาดรวมทุกสรรพสิ่งให้ตกอยู่ในภาวะจำยอม

เพราะหากไม่ปรับเปลี่ยน ก็ไม่สามารถดำรงคงอยู่ได้

ไม่ว่าไวรัส ไม่ว่าสังคม ไม่ว่าผู้คนในสถานะอันเป็นปัจเจก มิอาจหลบรอดหลีกพ้นไปได้

เป็นการสิ้นไปของ”โลกเก่า”เพื่อที่จะบังเกิด”โลกใหม่”ขึ้นมา

เป็นไปตามธรรมชาติอันดำรงอยู่อย่างเป็นอนิจจัง ไม่เที่ยงแท้ ไม่แน่นอน

“โลกใหม่”จะปรากฏบนรากฐานปรักหักพังของ”โลกเก่า”